การใช้ประโยชน์ With และ Without ในการสื่อความหมาย
with และ without สามารถใช้เพื่อลดรูปคำหรือประโยคให้สั้นลงเพื่อความกระชับ
ตัวอย่าง
๑. The temple which/that hasn't crematorium./The temple which/that doesn't have crematorium วัดที่ไม่มีเมรุ สามารถแทนด้วย The temple without crematorium
๒. ทัวร์เบ็ดเสร็จที่ไม่มีอาหารเช้ารวมอยู่
The package tour which/that hasn't breakfast----->The package tour without breakfast
๓. ห้องที่มีแอร์
Room which/that has air-conditioner.------>Room with air-conditioner
๔. คณะนักท่องเที่ยวที่ไม่มีหัวหน้าทัวร์
The tourist group which/that hasn't(doesn't have) tour leader.----->The tourist group without tour leader
๕. คนที่สวมหมวกเขียว
The one who/that is wearing green cap(hat/bonnet)----->The one with green cap(hat/bonnet)
๖. ผู้โดยสารที่ไม่มีสัมภาระ
A passenger who/that hasn't (doesn't have) luggage(baggage).----->A passenger without luggage(baggage)
๗. แขกที่ไม่ได้มีการจองมา
The guest who/that has no booking(reservation)----->The guest without booking(reservation)
๘. ตั๋วที่มีวันหมดอายุ
A(The) ticket which/that has expiry date----->A(The) ticket with expiry date
๙. วัดที่มีใบเสมาคู่เรียกว่าวัดหลวง
A temple (The temple) which (that) has double-slab marker stone(boundary stone) is called a (the) royal temple.------> A temple(The temple) with double-slab marker stone(boundary stone) is called a (the) royal temple.
๑๐. มันเป็นการเดินทางที่ไม่มีแผนกันไว้
It is a trip(journey) which(that) doesn't have any plan.------>It is a trip(journey) without any plan. (สำหรับความหมายปัจจุบัน)
It was a trip(journey) which(that) doesn't have any plan------->It was a trip(journey) without any plan .(สำหรับความหมายอดีต)
๑๑. พวกเขาไปเดินป่ากันโดยไม่มีเจ้าหน้าป่าไปเป็นเพื่อน(พวกเขาไปเดินป่ากันโดยไม่มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่จะไปเป็นเพื่อน)
They go trekking without a ranger to escort.
They go trekking without a ranger to accompany.
๑๒. มันเป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีมีค่าเปิดขวด
It is a drink that hasn't corkage. -------> It is a drink without corkage.
It is a drink that doesn't have corkage ------->It is a drink without corkage.
๑๓. ฉันมีชีวิตอยู่ไม่ได้โดยที่ไม่มีคุณ/ฉันดำรงชีพอยู่ไม่ได้โดยไม่มีคุณ (จากเนื้อเพลง)
I can't live without you.
ตัวอย่างการนำคำว่า with และ without ไปใช้สื่อสารเทียบกับภาษาไทย
๑. ข้าวผัดใส่ไข่ Fried rice with egg
๒. ข้าวผัดไม่ใส่ไข่ Fried rice without egg
๓. ข้าวผัดไม่ใส่เนื้อสัตว์ Fried rice without meat
๔. ข้าวผัดไม่ใส่ผัก Fried rice without vegetable
๕. กาแฟไม่ใส่นม Coffee without milk
๖. กาแฟไม่ใส่น้ำตาล Coffee without sugar
แบบฝึกหัดที่ 1
1. ใคร(ก็ตาม)ที่ไม่มีตั๋วเข้าไม่ได้
2. ใคร(ก็ตาม)ที่มีตั๋วกรุณาเข้าแถว
3. เขาเป็นไกด์ที่ไม่มีประสบการณ์
4. มันเป็นเส้นทางที่ไม่มีอันตราย
5. มันเป็นวิธีที่ไม่มีความเสี่ยง
6. มันเป็นห้องที่ไม่มีแอร์
7. มันเป็นห้องที่หันหน้าเห็นทะเล
8. มันเป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีค่าเปิดขวด
9. มันเป็นการเดินทางที่ไม่มีไกด์นำเที่ยว
10.มันเป็นผลไม้ที่มีหนามเยอะ
เฉลย
1. Anyone/Anybody without ticket cannot enter (get in).
2. Anyone/Anybody with ticket please stand in row.
3. He is a guide without experience.
4. It is a trail/route without danger.
5. It is a method without risk.
6. It is a room without air-conditioner.
7. It is a room with sea-view.
8. It is a drink(beverage) without corkage.
9. It is a trip without tour guide.
10.It is a fruit with a lot of (many) thorns.
แบบฝึกหัดที่ 2
1. พระองค์เป็นกษัตริย์ที่ไม่มีพระราชโอรสธิดา
2. ยักษ์สิบหน้าตัวที่มีผิวสีเขียวเรียกว่าทศกัณฑ์
3. ยักษ์สิบหน้าตัวที่มีกายสีเขียวคือทศกัณฑ์
4. พระเพทราชาขึ้นครองราชโดยปราศจากการแต่งตั้งจากพระนารายณ์
5. พระเจ้าเสือเป็นโอรสที่ปราศจากการยอมรับจากพระนารายณ์
6. อนุสาวรีย์ที่มีรูปมงกุฎเป็นของรัชกาลที่4
7. มันเป็นอาคารที่มีการบูรณะมาหลายครั้ง
8. พระพุทธรูปที่มีสีทององค์นั้น จริงๆแล้วทำด้วยสำริดปิดทอง
9. สัตว์ในเทพนิยายที่มีครึ่งคนครึ่งสิงห์เรียกว่านรสิงห์
10. นี่เป็นฉากของรามเกียรติ์ที่มีพระรามและนางสีดาด้วยกัน
11. เจดีย์ที่เป็นแบบระฆังเป็นเจดีย์ที่มีอิทธิพลของศิลปะลังกา
12. พระยาไชยานุภาพช้างทรงของพระนเรศวรพาพระองค์เข้าไปหากองทัพพม่าโดยไม่มีทหารติดตาม
เฉลย
1. He is the king without children. หรือ He is the king without any children.
He is the king without child. หรือ He is the king without any child.
2. The ten-faced demon with green complexion is called Tosakan (Ravana).
3. The ten-faced demon with green body (green build) is Tosakan (Ravana).
4. King Phetracha ascended the throne without appointment by King Narai.
5. King Sua is a son without acceptance by King Narai.
หรือ King Sua is a son without being accepted by King Narai.
6. The monument with Thai crown figure belongs to King Rama IV.
7. It is the building with restoration for several (many/a lot of) times.
8. That Buddha image with golden colour is actually(really) made of gilt bronze.
That Buddha image with golden colour is actually (really) made of gilded bronze.
9. The mythical being(mythical animal) with half human half mythical lion--Singha is called Narasingha.
10. This is a scene of Rayamana (Ramakien) with Ram(Rama) and Sita together.
11. The chedi (stupa/pagoda) with bell shape is a chedi (stupa/pagoda) with influence by Ceylonese (Srilankan) art.
12. Phrayachaiyanuphap--the elephant of King Naresuan took him to(towards) the Burmese troops without any soldiers to follow.
Phrayaprabtrichak--King Naresuan's elephant took hm to (towards) the Burmese troops without any soldiers to follow.
แบบฝึกหัดที่ 3 ให้ฝึกบรรยายเป็นเนื้อหาสั้นๆ
๑. เรือที่มีธงสีฟ้าเป็นเรือนำเที่ยวสำหรับเส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยาระหว่างท่าพระอาทิตย์และท่าสาทร ในขณะที่เรือที่มีธงสีส้ม สีเหลือง สีเขียว หรือไม่มีธงเป็นเรือสาธารณะสำหรับระยะทางและจุดมุ่งหมายต่างๆกัน
(อธิบายเรื่อง การเดินทางท่องเที่ยวกับเรือด่วนเจ้าพระยา)
เฉลย
The boats with blue flags are tourist boats for the Chaophraya rive route between Phra Athit pier and Sathorn pier whereas the boats with the orange , yellow ,green or the ones without flag are the public boats for different distance and purposes.
๒. เทพที่มีศรีษะเป็นช้างเรียกชื่อว่า พระพิฆเณศร์ พระองค์เป็นเทพที่พระนาภีใหญ่ มันเป็นสัญลักษณ์ว่าพระองค์เป็นเทพที่ทรงความรู้
เฉลย
The deity with an elephant head is named Ganesh . He is a deity with a big belly. It symbolizes that he is a deity with knowledge.
๓. ผลไม้ที่หนามเยอะลูกนี้เรียกว่า ทุเรียน มันเป็นผลไม้ที่มีกลิ่นแรงด้วย ลูกค้าโรงแรมท่านใดที่มีทุเรียนอยู่ในมือจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าโรงแรมตราบเท่าที่(ลูกค้า)ไม่ทิ้งมันไว้ข้างนอก
เฉลย
The fruit with a lot of thorns is called Durian. It is also a fruit with strong smell. Any hotel guest with Durian in hand will not be allowed to enter the hotel as long as he doesn't leave it outside..
๔. ขวดที่มีจุกขวดสีเขียวเป็นขวดที่มีน้ำปลา ในขณะที่ขวดที่มีจุกขวดสีแดงเป็นขวดที่มีซีอิ๊ว และขวดที่ไม่มีจุกขวดเป็นขวดที่มีน้ำส้มสายชู หยิบอันที่ถูกมานะ
The bottle with the green stopper is the bottle with fish-sauce whereas the one with the red stopper is the one with soybean-sauce and the one without stopper is the one with vinegar. Take the right one.
Saturday, 25 May 2013
การสื่อความหมายว่า "มี" ในภาษาอังกฤษ
การสื่อความหมายว่า "มี" ในภาษาอังกฤษ
คำว่า "มี" ในภาษาไทย ค่อนข้างจะเป็นปัญหาเมื่อต้องการจะเทียบตายตัวป็นภาษาอังกฤษ เนื่องจากในภาษาอังกฤษ มีใช้หลายคำ และใช้แตกต่างกันตามโครงสร้างภาษา ซึ่งคนไทยมักจะยึดติดที่คำว่า have/has / had เสมอ
คำหรือกลุ่มคำที่จะเลือกใช้โดยทั่วไปคือ
บอกเล่า ปฏิเสธ
have --------> haven't หรือdon't have
has --------> hasn't หรือ doesn't have
had --------> hadn't หรือ didn't have
there is --------> there isn't
there are -------> there aren't
there was ------> there wasn't
there were -----> there weren't
there will be จะมี ---> there will not be/there won't be
available -----------> (is/am/are/was/were/)+ not available(หรือใช้ unavailable แทน not available)
will not be available หรือ will be unavailable
หลักการใช้ มีดังนี้
หลักการที่ ๑
เมื่อบอกว่า ใครหรือสิ่งไหนมีอะไร (นั่นก็คือว่า หากระบุความเป็นเจ้าของ)ให้ใช้ have/has สำหรับความหมายปัจจุบัน และ had กับความหมายอดีต
ตัวอย่าง เช่น
๑. วัดนี้มีเณร ๒๐รูป และพระภิกษุ๑๔๐รูป
This temple has 20 novices and 140 monks. (ปัจจุบัน)
This temple had 20 novices and 140 monks. (อดีต)
๒.เรา(พวกเรา) มีแขก(มา๑คน)
We have a guest. (ปัจจุบัน)
We had a guest. (อดีต)
๓.อุทยานแห่งชาติแห่งนี้ไม่มีช้างเลย
This national park hasn't any elephant. (ปัจจุบัน)
หรือ This national park doesn't have any elephant.
This national park hadn't any elephant. (อดีต)
หรือ This national park didn't have any elephant.
(หลักการใช้ have/has มีอยู่ว่า ถ้าประธานเป็นหลายสิ่งหรือมากกว่า1ให้ใช้กับ have ยกเว้นสรรพนามสองตัว คือ I และ You สองตัวนี้เป็นข้อยกเว้นว่าต้องใช้กับ have แม้ว่าจะเป็นบุคคลเดียวก็ตาม
หลักการใช้ had มีอยู่ว่าคำนี้ใช้กับเรื่องราวอดีต ไม่ว่าประธานของประโยคจะเป็นหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งให้ใช้ had เหมือนกัน จึงไม่ต้องจำอะไรมาก เพียงแต่จำว่าถ้าใช้ความหมายอดีต ให้ใช้ had ได้เพียงอย่างเดียว)
๔.สวนสามพราน(เดิมชื่อ The Rose Garden) มีลูกจ้างประมาณ ๔๐๐ คน
Samphran Riverside resort (the former Rose Garden) has about 400 employees.
๕.ประเทศไทยมีเสือเหลืออยู่ในป่าไม่เกิน ๒๕๐ ตัว (ข้อมูล ณ ปี ๒๕๕๘)
Thailand has not more than 250 tigers left.
Thailand has not over 250 tigers left.
๖.พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชโอรสธิดา ๘๒องค์
King Mongkut had 82 children. (พระนามของพระองค์ใช้เป็นภาษาอังกฤษว่า King Mongkut อันสืบเนื่องมาจากว่าทรงเคยดำรงตำแหน่งเป็น "เจ้าฟ้ามงกุฎ" หรือ Prince Mongkut)
๗.พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่มิทรงมีพระราชโอรสธิดา
-King Prachthipok doesn't have any child. (ใช้อธิบายข้อเท็จจริง)
-King Prachathipok hasn't any child.(ใช้อธิบายข้อเท็จจริง)
-King Prachathipok didn't have any child. (ใช้อธิบายเรื่องในอดีต)
-King Prachathipok hadn't any child.(ใช้อธิบายเรื่องในอดีต)
๘.ช้างเอราวัณมี๓๓เศียร (เศียรตรงกลางชื่อสุทัศน์)
Erawan (หรือ Iyara)the mythical elephant has 33 heads.
๙.ขมมปังของพัฟแอนด์พายไม่มีสารกันบูด(หรือวัตถุกันเสีย)
-The bread of Puff&Pie doesn't have preservative. (อ้างอิงตามการสุ่มตรวจจากองค์กรคุ้มครองผู้บริโภคเมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๖)
-The bread of Puff&Pie hasn't preservative.
๑๐.เอราวัณเป็นช้างในเทพนิยายที่มี ๓๓ เศียร แต่ละเศียรมี๗งา
-Erawan is a mythical elephant which has 33 heads. Each head has 7 tusks
-Erawan is a mythical elephant which has 33 heads ;each head has 7 tusks
๑๑.ราชวงศ์ปราสาททองแห่งอยุธยามีกษัตริย์ ๔ พระองค์ พระเจ้าปราสาททอง สมเด็จเจ้าฟ้าชัย พระศรีสุธรรมราชา และพระนารายณ์
-The Prasatthong Dynasty of Ayutthaya has 4 kings--King Prasatthong,King Chai, King Si Suthammaracha and King Narai.
-The Prasatthong Dynasty of Ayutthaya had 4 kings--King Prasatthong,King Chai, King Si Suthammaracha and King Narai.
๑๒.พวกเขามีความสามารถพิเศษเฉพาะตัว
They have their own talent.
๑๓.ประเทศไทยมี ๒๔,๘๐๐๐,๐๐๐ ครัวเรือน (ข้อมูลปี ๒๕๕๗)
Thailand has 24,800,000 families.
๑๔. โรงพยาบาลศิริราชมีผู้ป่วยนอกปีละประมาณ ๑.๕ ล้านคน (ข้อมูลปี พ.ศ.๒๕๕๗)
Siriraj Hospital has about 1.5 million out-patients a year.
๑๕. ประเทศจีนมีชาวคริสต์ประมาณ ๖๐ล้านคน (ข้อมูลปี พ.ศ. ๒๕๕๘)
China has about 60 million Christian.
๑๖. ประเทศไทยมีปั๊ม ปตท ประมาณ ๑,๕๐๐ แห่ง (ข้อมูล พ.ศ. ๒๕๕๘)
Thailand has about 1,500 PTT petrol stations. (คนอเมริกันใช้คำว่า gas station)
๑๗. ประเทศไทยมีเรือประมงที่ขึ้นทะเบียนแล้ว ๕๑,๐๐๐ ลำ (ข้อมูลปี ๒๕๕๘)
Thailand has 51,000 registered fishing boats.
หมายเหตุ มีอีกจำนวน ๒,๐๐๐ ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน
๑๘. คนไทยประมาณ๓๕ล้านคนมีเฟสบุ๊ค
About 35 million Thai people have there own face-books
(ข้อมูลปี ๒๕๕๘).
๑๙. ประเทศไทยมีเสือที่เลี้ยงไว้ประมาณ ๑,๔๐๐-๑,๕๐๐ ตัว (ข้อมูลปี พ.ศ.๒๕๕๙)
Thailand has about 1,400-1,500 domesticated tigers.
(The domesticated tigers are kept in some 30 zoos.)
๒๐. ประเทศไทยมีสนามกอล์ฟประมาณ ๒๕๐ แห่ง (ข้อมูลปี พ.ศ. ๒๕๕๙)
Thailand has about 250 golf courses.
๒๑. ประเทศไทยมีบ้านที่มีมูลค่าเกิน๕๐ล้านบาทประมาณ ๘,๐๐๐ หลัง (ข้อมูลปีพ.ศ.๒๕๕๙)
Thailand has about 8,000 houses which cost more than 50 million Baht.
๒๒. ประเทศไทยมีด่านชายแดนที่ถูกกฎหมาย ๑๑๘ ด่าน (ข้อมูลปีพ.ศ.๒๕๕๙)
Thailand has 118 legal border check-points.
๒๓. กรุงเทพฯมีสุนัขจรจัดประมาณ ๑๐๐,๐๐๐ ตัว (ข้อมูลปี พ.ศ.๒๕๕๙)
Bangkok has about 100,000 stray dogs.
๒๔. ประเทศไทยมีหมู่บ้านประมาณ ๗๖,๐๐๐ แห่ง (ข้อมูลปี พ.ศ.๒๕๕๙)
Thailand has about 76,000 villages.
๒๕. ประเทศไทยมีวัดที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าประมาณ ๗,๐๐๐ แห่ง (ข้อมูลปี พ.ศ.๒๕๕๙)
-Thailand has about 7,000 Buddhist temples which are located in forestry area.
-Thailand has about 7,000 Buddhist temples located in forestry area.
หลักการที่ ๒
เมื่อกล่าวขึ้นมาลอยๆว่า "มี" ขึ้นต้นประโยค ให้ใช้ there is /there are สำหรับความหมายปัจจุบัน และ there was/there were สำหรับความหมายอดีต และ there will be สำหรับการคาดการณ์เรื่องอนาคต๑๒.พวกเขามีความสามารถพิเศษเฉพาะตัว
They have their own talent.
๑๓.ประเทศไทยมี ๒๔,๘๐๐๐,๐๐๐ ครัวเรือน (ข้อมูลปี ๒๕๕๗)
Thailand has 24,800,000 families.
๑๔. โรงพยาบาลศิริราชมีผู้ป่วยนอกปีละประมาณ ๑.๕ ล้านคน (ข้อมูลปี พ.ศ.๒๕๕๗)
Siriraj Hospital has about 1.5 million out-patients a year.
๑๕. ประเทศจีนมีชาวคริสต์ประมาณ ๖๐ล้านคน (ข้อมูลปี พ.ศ. ๒๕๕๘)
China has about 60 million Christian.
๑๖. ประเทศไทยมีปั๊ม ปตท ประมาณ ๑,๕๐๐ แห่ง (ข้อมูล พ.ศ. ๒๕๕๘)
Thailand has about 1,500 PTT petrol stations. (คนอเมริกันใช้คำว่า gas station)
๑๗. ประเทศไทยมีเรือประมงที่ขึ้นทะเบียนแล้ว ๕๑,๐๐๐ ลำ (ข้อมูลปี ๒๕๕๘)
Thailand has 51,000 registered fishing boats.
หมายเหตุ มีอีกจำนวน ๒,๐๐๐ ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน
๑๘. คนไทยประมาณ๓๕ล้านคนมีเฟสบุ๊ค
About 35 million Thai people have there own face-books
(ข้อมูลปี ๒๕๕๘).
๑๙. ประเทศไทยมีเสือที่เลี้ยงไว้ประมาณ ๑,๔๐๐-๑,๕๐๐ ตัว (ข้อมูลปี พ.ศ.๒๕๕๙)
Thailand has about 1,400-1,500 domesticated tigers.
(The domesticated tigers are kept in some 30 zoos.)
๒๐. ประเทศไทยมีสนามกอล์ฟประมาณ ๒๕๐ แห่ง (ข้อมูลปี พ.ศ. ๒๕๕๙)
Thailand has about 250 golf courses.
๒๑. ประเทศไทยมีบ้านที่มีมูลค่าเกิน๕๐ล้านบาทประมาณ ๘,๐๐๐ หลัง (ข้อมูลปีพ.ศ.๒๕๕๙)
Thailand has about 8,000 houses which cost more than 50 million Baht.
๒๒. ประเทศไทยมีด่านชายแดนที่ถูกกฎหมาย ๑๑๘ ด่าน (ข้อมูลปีพ.ศ.๒๕๕๙)
Thailand has 118 legal border check-points.
๒๓. กรุงเทพฯมีสุนัขจรจัดประมาณ ๑๐๐,๐๐๐ ตัว (ข้อมูลปี พ.ศ.๒๕๕๙)
Bangkok has about 100,000 stray dogs.
๒๔. ประเทศไทยมีหมู่บ้านประมาณ ๗๖,๐๐๐ แห่ง (ข้อมูลปี พ.ศ.๒๕๕๙)
Thailand has about 76,000 villages.
๒๕. ประเทศไทยมีวัดที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าประมาณ ๗,๐๐๐ แห่ง (ข้อมูลปี พ.ศ.๒๕๕๙)
-Thailand has about 7,000 Buddhist temples which are located in forestry area.
-Thailand has about 7,000 Buddhist temples located in forestry area.
หลักการที่ ๒
เช่น
๑.มีการแสดงสดที่นี่ทุกวันเสาร์
There is a live show(concert) here every Saturday.(ใช้Saturdaysก็ได้ ถ้าต้องการย้ำความหมายว่ามีอยู่เป็นปกติ)
There are live shows(concerts) here every Saturday(Saturdays). ถ้าต้องการสื่อหรือบอกความหมายให้ละเอียดให้ผู้ฟังทราบว่าการแสดงมีมากกว่า๑รายการ
๒.มีแขกมาประมาณ ๑๘๐คน
There are about 180 guests. (ปัจจุบัน)
There were about 180 guests.(อดีต)
๓.จะมีการซ้อมพิธีในวันจันทร์ที่จะมาถึง
There will be a ceremony rehearsal on the coming up Monday.
๔.มีชาวรัสเซียอาศัยอยู่ในพัทยาประมาณ ๑๕,๐๐๐ คน (ข้อมูลปี พ.ศ.๒๕๕๗)
There are about 15,000 Russian residents in Pattaya.
There are about 15,000 Russians who live in Pattaya.
There are about 15,000 Russian living in Pattaya.
There are about 15,000 Russians who reside in Pattaya.
There are about 15,000 Russians residing in Pattaya.
๕.มีคนไทยอาศัยอยู่ในรัสเซียประมาณ ๑,๘๐๐ คน (ข้อมูลปี พ.ศ.๒๕๕๘)
There are about 1,800 Thai residents in Russia.
There are about 1,800 Thais who live in Russia.
There are about 1,800 Thais living in Russia.
There are about 1,800 Thais who reside in Russia.
There are about 1,800 Thais residing in Russia.
๖.มีคนไทยประมาณ๓๐ล้านคนที่ประกอบอาชีพอิสระ (ข้อมูลปี พ.ศ.๒๕๕๘)
There are about 30 million Thais who have independent jobs.
There are about 30 million Thais having independent jobs.
There are about 30 million Thais who do independent jobs.
There are about 30 million Thais doing independent jobs.
๗.มีคนไทยพำนักอาศัยอยู่ในสิงคโปร์ประมาณ ๕๐,๐๐๐ คน (ข้อมูลปี พ.ศ.๒๕๕๘)
There are about 50,000 Thai residents in Singapore.
๘.มีคนไทยที่พำนักอาศัยในสิงคโปร์ประมาณ ๕๐,๐๐๐ คน
There are about 50,000 Thais who reside in Singapore.
There are about 50,000 Thai residing in Singapore.
๙.มีพิพิธภัณฑ์อาวุธที่ชั้นล่าง(ชั้นติดพื้นดิน)ของพระที่นั่งจักรี
There is a museum of weapon on the ground floor of the Chakkri Throne Hall.
There is an armory on the ground floor of the Chakkri Throne Hall.
๑๐.มีร้านทองประมาณ ๒๐๐ แห่งในเยาวราช กรุงเทพฯ
There are about 200 gold-shops in Chaina Town of Bangkok.
๑๑.มีโรงพยาบาลช้างหลายแห่งในประเทศไทย เช่น ที่คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม และที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จังหวัดลำปาง
There are many elephant hospitals in Thailand such as the one at the veterinary faculty of Kasetsat University ,Kamphaengsaen campus,Nakhon Pathom Province and the one at Elephant Conservation Center ,Lampang Province.
๑๒.มีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวฮ่องกงประมาณ ๒๕ล้านคนในปี ค.ศ. 2013
There were about 25 million visitors to Hong Kong in 2013.
There were about 25 million people who visited Hong Kong in 2013.
There were about 25 million people visiting Hong Kong in 2013.
๑๓.มีแมวประมาณ ๕๐๐ล้านตัวในโลกนี้ (ข้อมูลปี พ.ศ. ๒๕๕๗)
There are about 500 million cats in the world.
There are about 500 million cats on earth.
๑๔.มีร้านอาหารไทยในต่างประเทศประมาณ๗,๐๐๐ แห่งที่ดำเนินการโดยคนไทย(ข้อมูลปี พ.ศ.๒๕๕๒)
There are about 7,000 oversea Thai restaurants that are run by Thais.
There are about 7,000 oversea Thai restaurants run by Thais.
There are about 7,000 Thai-run oversea restaurants.๑๕. มีคนญี่ปุ่นพำนักอาศัยในกัมพูชาประมาณ ๒,๒๐๐ คน (ข้อมูลปี พ.ศ.๒๕๕๘)
There are about 2,200 Japanese residents in Cambodia.
There are about 2,200 Japanese who reside in Cambodia.
There are about 2,200 Japanese residing in Cambodia.
-There are 20 elephant veterinarians in Thailand.
-There are 20 elephant doctors in Thailand.
๑๗. มีคนไทย๑๕๐,๐๐๐คน ทำงานในประเทศมาเลเซีย (ข้อมูลปี พ.ศ.๒๕๕๘)
-There are 150,000 Thai workers in Malaysia.
-There are 150,000 Thai people who work in Malaysia.
-There are 150,000 Thai working in Malaysia.
๑๘. มีเรือนจำ๑๔๕ แห่งในประเทศไทย
There are 145 prisons in Thailand.
๑๙. มีนักโทษประมาณ ๒๓๔,๐๐๐ คน ในประเทศไทย (ข้อมูลปี พ.ศ. ๒๕๕๘)
There are about 234,000 prisoners in Thailand.
๒๐. มีนักเรียนไทยไปสหรัฐอเมริกาประมาณ ๘,๐๐๐ คนต่อปี (ข้อมูลปี พ.ศ. ๒๕๕๙)
There are about 8,000 Thai students to study in the USA in a year.
๒๒. มีชาวเวียตนามอยู่ในต่างประเทศกว่า๕ล้านคน (ข้อมูลปีพ.ศ.๒๕๕๙)
There are more than 5 million oversea Vietnamese.
๒๓. มีร้านอาหารไทยในออสเตรเลียกว่า๓๐๐ร้าน (ข้อมูลปีพ.ศ.๒๕๕๙)
There are more than 300 Thai restaurants in Australia.
There are over 300 Thai restaurants in Australia.
๒๔. มีสถานีตำรวจประมาณ๑,๔๐๐แห่งในประเทศไทย (ข้อมูลปีพ.ศ.๒๕๕๙)
There are about 1.400 police stations in Thaialnd.
หลักการที่ ๓
เมื่อกล่าวขึ้นต้นประโยคด้วยกลุ่มคำหรือคำบอกสถานที่ หรือบอกเวลา หรือคำประเภทบุรพบทแล้วต่อด้วยคำว่า "มี............." ให้ใช้ there is /there are, there was/there were , there will be
เช่น
๑.ในเดือนสิงหาคม จะมีนักท่องเที่ยวมากมายจากประเทศสเปน(กล่าวในเชิงคาดการณ์)
In August, there will be a lot of tourists from Spain.
๒.ในเดือนสิงหาคม มีนักท่องเที่ยวมากมายจากประเทศสเปน (กล่าวถึงข้อเท็จจริงที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน)
In August, there are a lot of tourists from Spain.
๓.ถัดจากหาดนี้ไป มีหาดที่สวยน้อยกว่าแต่สะอาดกว่าและสงบกว่า
Next to this beach,there is a less beautiful one but cleaner and quieter.
๔.ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีนักท่องเที่ยวมากมายจากสิงคโปร์
During Songkran Festival , there are many tourists from Singapore.
๕.ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะมีนักท่องเที่ยวมากมายจากสิงคโปร์
During Songkran Festival ,there will be many tourists from Singapore.
๖.ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีนักท่องเที่ยวมากมายจากสิงคโปร์ที่จะมาร่วมสาดน้ำกัน(จะมาร่วมกันในการสาดน้ำให้กันและกัน)
During Songkran Festival , there are many tourists from Singapore to take part in splashing water to one another. หรือ During Songkran Festival ,there are may tourists from Singapore to participate in splashing water to one another.
๗.ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะมีนักท่องเที่ยวมากมายจากสิงคโปร์ที่จะมาร่วมสาดน้ำกัน(จะมาร่วมกันในการสาดน้ำให้กันและกัน)
During Songkran Festival , there will be many tourists from Singapore to take part in splashing water to one another. หรือ During Songkran Festival ,there will be may tourists from Singapore to participate in splashing water to one another.
๘.ในประเทศนอร์เวย์ มีคนไทยที่อาศัยอย่างถาวรประมาณ ๑๕,๐๐๐ คน (ข้อมูลจากการให้สัมภาษณ์ของท่านทูตนอร์เวย์ประจำประเทศไทย ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘)
In Norway, there are about 15,000 permanent Thai residents.
In Norway, there are about 15,000 Thais who are permanent residents.
๙.ในแต่ละปี มีนักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์มาประเทศไทยประมาณ ๑๕๐,๐๐๐ คน (ข้อมูลจากการให้สัมภาษณ์ของท่านทูตนอร์เวย์ประจำประเทศไทย ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘)
In each year , there are about 150,000 Norwegian tourists to visit Thailand.
In each year, there are about 150,000 Norwegians who visit Thailand.
In each year, there are about 150,000 Norwegians visiting Thailand.
๑๐.ในบรรดานักศึกษาที่จบปริญญาตรี ๔๐๐,๐๐๐ คนของประเทศไทย มี ๑๐๐,๐๐๐ คน ที่ตกงาน (ข้อมูลปี พ.ศ. ๒๕๕๗)
Of the 400,000 Thailand's university graduated students, there are 100,000 unemployed.
Of the 400,000 Thailand's university graduated students, there are 100,000 unemployed ones.
๑๑.ในประเทศไทย มีบริษัทไทย-เยอรมัน ประมาณ ๖๐๐ บริษัท (ข้อมูลปี พ.ศ. ๒๕๕๘)
In Thailand , there are about 600 Thai-German companies.
๑๒.ในปีพ.ศ.๒๕๕๗(ค.ศ.2014) มีคนไทยไปเที่ยวมาเลเซียประมาณ ๑,๓๐๐,๐๐๐ คน
In 2014 ,there were about 1,300,000 Thai people who visited Malaysia.
In 2014 ,there were about 1,300,000 Thai people visiting Malaysia.
In 2014 ,there were about 1,300,000 Thai tourists to Malaysia.
๑๓.ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มีช้างป่าประมาณ ๒๗๐ ตัว (คำให้สัมภาษณ์ของหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ในวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๕๘)
In Kangkrachan National Park , there are about 270 wild elephants.
๑๔. ในเกาหลีใต้ มีทหารอเมริกันประจำการอยู่ประมาณ ๒๘,๕๐๐ นาย (ข้อมูลปี ๒๕๕๘)
In South Korea , there are about 28,500 stationing American military-men.
In South Korea , there are about 28,500 garrisoning American military-men.
In South Korea , there are about 28,500 stationing American soldiers.
In South Korea , there are about 28,500 garrisoning American soldiers.
๑๕. ในแต่ละปี มีนักท่องเที่ยวจากฝรั่งเศสมาเที่ยวเมืองไทยประมาณ ๖๐๐,๐๐๐ คน (ข้อมูลปี ๒๕๕๗)
In each year, there are about 600,000 French tourists to Thailand.
In each year, there are about 600,000 French visiting Thailand.
๑๖. แต่ละปี มีผู้โดยสารที่จะใช้สนามบินอู่ตะเภาประมาณ ๑๐๐,๐๐๐ คน (ข้อมูลปีพ.ศ. ๒๕๕๘)
Each year ,there are about 100,000 passengers to use U-taphao airport.
๑๗. ในปีพ.ศ.๒๕๕๗ (ค.ศ. ๒๐๑๔)มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี ๖.๔ ล้านคน
In 2014 , there were 6.4 million tourists to Kanchanaburi province.
๑๘. ในปีพ.ศ.๒๕๕๗ (ค.ศ. ๒๐๑๔)มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี ๖.๔ ล้านคน รวมถึงชาวต่างชาติด้วย
-In 2014 , there were 6.4 million tourists to Kanchanaburi province. It includes foreigners.
-In 2014 , there were 6.4 million tourists to Kanchanaburi province ,including foreigners.
-In 2014 ,there were 6.4 million tourists ,including foreigners, to Kanchanaburi province.
๑๙. ในแต่ละปี มีคนไทยไปเรียนอังกฤษ(สหราชอาณาจักร)ประมาณ ๑๐,๐๐๐ คน (บทสัมภาษณ์ของท่านทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ๒๖ ต.ค.พ.ศ.๒๕๕๘)
-In each year, there are about 10,000 Thai who go to study in the UK.
-In each year, there are about 10,000 Thai going to study in the UK.
๒๐. ในกรุงเทพฯ มีรถจดทะเบียน ๘.๖ล้านคัน (ข้อมูลปี พ.ศ. ๒๕๕๘)
In Bangkok ,there are 8.6 million registered vehicles.
๒๑. ตามสถิติของสถานทูตไทยในอินโดนีเซีย มีคนไทยที่อาศัยอยู่ในอินโดนีเซียประมาณ ๔,๐๐๐ คน
(ข้อมูล ณ 14 ม.ค. 2559)
-According to the statistics of Thailand embassy to Indonesia , there are about 4,000 Thais who live in Indonesia.
-According to the statistics of Thailand embassy to Indonesia , there are about 4,000 Thais living in Indonesia.
-According to the statistics of Thailand embassy to Indonesia , there are about 4,000 Thais who reside in Indonesia.
-According to the statistics of Thailand embassy to Indonesia , there are about 4,000 Thais residing in Indonesia.
๒๒. ตามรายงานในปี พ.ศ.๒๕๕๘ (ค.ศ.๒๐๑๕) มีคนไทย ๑๗.๗ ล้านคนที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
-According to a report of 2015 , there are 17.7 million Thais who drink alcoholic beverage.
-According to a report of 2015 , there are 17.7 million Thais drinking alcoholic beverage.
-According to a report of 2015 , there are 17.7 million Thai people who drink alcoholic beverage.
-According to a report of 2015 , there are 17.7 million Thai people drinking alcoholic beverage.
๒๓. ในประเทศไทย มีปั๊มปตท.ประมาณ ๑,๓๐๐ แห่ง (ข้อมูลปี พ.ศ.๒๕๕๙)
-In Thailand ,there are about 1,300 PTT petrol stations.
-In Thailand ,there are about 1,300 PTT gas stations.
๒๔. ในแต่ละปี มีนักท่องเที่ยวที่เที่ยวกันเองในประเทศไทยประมาณ ๒๖ล้านคน (ข้อมูลปี พ.ศ. ๒๕๕๙)
In each year ,there are about 26 million domestic tourists in Thailand.
๒๕. ในปีพ.ศ.๒๕๕๘ มีนักท่องเที่ยวจีนมาไทย ๗.๙ล้านคน
In 2015 ,there were 7.9 million Chinese tourists to Thailand.
๒๖. ในปีหนึ่งๆ มีนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ไปตุรกีประมาณ ๒แสนคน (ข้อมูลปี พ.ศ.๒๕๕๙)
In a year ,there are about 200,000 South-Korean tourists to Turkey.
๒๗. ในปีหนึ่งๆ มีผู้โดยสารใช้รถไฟกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ๖-๗ล้านคน (ข้อมูล ปี พ.ศ.๒๕๕๙)
In a year , there are 6-7 million passengers of Bangkok-Chiangmai train.
In a year, there are 6-7 million railway passengers between Bangkok and Chiangmai.
เมื่อกล่าวถึงคนใดหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งว่ามี (หมายถึงว่า สิ่งนั้นหรือคนนั้นมีอยู่) ให้ใช้ available ถ้าไม่มี ให้ใช้ not available/unavailable โดยใช้โครงสร้างที่ถูกต้อง เป็น
be available
is/am/are available (ใช้กับความหมายปัจจุบัน)
was/were available (ใช้กับความหมายอดีต)
will be available (ใช้กับความหมายอนาคต)
ตัวอย่าง เช่น
๑.บริการแลกเปลี่ยนเงินตรามีที่นี่ตั้งแต่ ๘.๐๐-๑๗.๐๐ น.
Exchange service is available here from 8.00 am to 5 pm. (บอกถึงข้อเท็จจริงในปัจจุบัน)
Exchange service was available here from 8.00 am to 5 pm (บอกถึงเหตุการณ์ในอดีต)
Exchange service will be available here from 8.am to 5 pm (บอกถึงเรื่องในอนาคต)
๒.คนชื่อเจฟไม่มีที่นี่นะคะ
A Jeff is not available/unavailable here. หรือ A person named Jeff is not available/unavailable here.หรือ A person by the name Jeff is not available /unavailable here
๓.เที่ยวบินไปฮ่องกงจะไม่มีให้คุณสำหรับพรุ่งนี้นะคะ/ครับ (คาดการณ์ว่าตั๋วจะขายหมด เที่ยวบินเต็ม ผู้ฟังยังไม่ตัดสินใจซื้อตั๋วที่มีอยู่)
The flight(A flight/Any flight) to Hong Kong will not be available for you tomorrow.
๔.การลาบวชไม่มีในเวียตนาม (หมายความว่า ในประเทศเวียตนามไม่มีกฎระเบียบอนุญาตให้พนักงานผู้ชายใช้สิทธิลาบวชได้ ถ้าต้องการบวชก็ต้องลาออกจากงานไปเลย)
An ordination leave is not available in Vietnam.
An ordination leave is unavailable in Vietnam.
๕.เบียร์ไม่มีขายเวลานี้
Beer is not available for sale at this time.
Beer is unavailable for sale at this time.
๖.ซิมการ์ดโทรศัพท์มีขายที่ร้านในโรงแรมไหม?
Is a phone sim-card available for sale in the hotel shop?
๗.ห้องไม่มีให้เลือก
Rooms are not available to choose.
Rooms are unavailable to choose.
๘. รถมอเตอร์ไซค์(บางที่เรียก "รถเครื่อง")มีเป็นครั้งแรกในเมืองไทยในปี ค.ศ. ๑๙๐๐
A motorcycle (หรือ motorbike) was available in Thailand for the first time in 1900.
๙. พลอยไพลินมากมายมีอยู่ในจังหวัดกาญจนบุรี
A lot of blue sapphire is available in Kanchanaburi Province.
๑๐.รถไฟ(แอร์พอร์ตเรลลิ้งค์)จากสนามบินสุวรณภูมิเข้าเมือง เที่ยวแรกมีตอน๖โมงเช้า
The first Airport Rail Link train from Suvannaphumi airport to the city is available at 6 am.
๕.เบียร์ไม่มีขายเวลานี้
Beer is not available for sale at this time.
Beer is unavailable for sale at this time.
๖.ซิมการ์ดโทรศัพท์มีขายที่ร้านในโรงแรมไหม?
Is a phone sim-card available for sale in the hotel shop?
๗.ห้องไม่มีให้เลือก
Rooms are not available to choose.
Rooms are unavailable to choose.
๘. รถมอเตอร์ไซค์(บางที่เรียก "รถเครื่อง")มีเป็นครั้งแรกในเมืองไทยในปี ค.ศ. ๑๙๐๐
A motorcycle (หรือ motorbike) was available in Thailand for the first time in 1900.
๙. พลอยไพลินมากมายมีอยู่ในจังหวัดกาญจนบุรี
A lot of blue sapphire is available in Kanchanaburi Province.
๑๐.รถไฟ(แอร์พอร์ตเรลลิ้งค์)จากสนามบินสุวรณภูมิเข้าเมือง เที่ยวแรกมีตอน๖โมงเช้า
The first Airport Rail Link train from Suvannaphumi airport to the city is available at 6 am.
ตัวอย่างที่๑ (ความหมายในปัจจุบัน)
ไม่มีอะไรอยู่ในเจดีย์ There is nothing in the pagoda(chedi) หรือ There is not anything in the pagoda(chedi).
ในเจดีย์ไม่มีอะไร In the pagoda (chedi) ,there is nothing. หรือ In the pagoda (chedi),there is not anything.
เจดีย์ไม่มีอะไร The pagoda(chedi) has nothing. หรือ The pagoda(chedi) doesn't have anything. หรือ The pagoda(chedi) hasn't anything.
อะไรๆก็ไม่มีอยู่ในเจดีย์ Nothing is available in the pagoda(chedi). หรือ Anything is not available in the pagoda (chedi)หรือ Anything is unavailable in the pagoda(chedi)
ตัวอย่างที่ ๒ (ความหมายในปัจจุบัน)
มีแขก ๑ คน อยู่ในห้องอาหาร There is a guest in the restaurant.
ในห้องอาหารมีแขก ๑ คน In the restaurant ,there is a guest.
แขกมีอยู่คนหนึ่ง(หรือ ๑คน)ในห้องอาหาร A guest is available in the restaurant.
ห้องอาหารมีแขก ๑ คน The restaurant has a guest.
ตัวอย่างที่ ๓
-ค่าแว่นถิ่นใต้นับร้อยตัวมีอยู่ที่เขาล้อมหมวกในเขตพื้นที่กองบิน ๕ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
Hundreds of dusky leaf monkeys are available at Khaolommuak the mountain in the squadron 5 area ,Prachuab Khirikhan Province.
-มีค่างแว่นถิ่นใต้นับร้อยตัวในเขตพื้นที่กองบิน ๕ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
There are hundreds of dusky leaf monkeys at Khaolommuak the mountain in the squadron 5 area , Prachuab Khirikhan Province.
-พื้นที่เขตกองบิน๕ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีค่างแว่นถิ่นใต้นับร้อยตัว
The squadron 5 area , Prachaub Khirikhan Province , has hundreds of dusky leaf monkeys.
-ในเขตพื้นที่กองบิน ๕ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีค่างแว่นถิ่นใต้นับร้อยตัว
In the squadron 5 area , Prachuab Khirikhan Province there are hundreds of dusky leaf monkeys.
เพิ่มเติม (๑)
ในการขึ้นต้นประโยคว่า "มี.............มาแล้วจนถึงปัจจุบัน (กี่มากน้อย)" ใช้รูปแบบว่า "There have been ......หรือ There has been................"
ตัวอย่าง
มีพระพุทธเจ้ามาแล้วประมาณ ๓,๕๘๔,๐๐๐ องค์ (อ้างอิงตามคัมภีร์ฉบับหนึ่ง)
There have been about 3,584,000 Buddhas.
มีเรื่องร้องเรียนมาเรื่องเดียว
There has been only a petition.
มีเรื่องร้องเรียนมา๑เรื่อง
There has been a petition.
มีช้างประมาณ๔๐ตัวที่ได้รับการปลดปล่อยสู่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งนี้
There have been about 40 elephants which were released to this wild life sanctuary.
There have been about 40 elephants released to this wild life sanctuary.
เพิ่มเติม (๒)
การสื่อความหมายในปัจจุบัน ในการขึ้นต้นประโยคว่า "ควรจะมี......" หรือ "ควรมี......" ใช้รูปแบบว่า "There should be............"
ตัวอย่าง
ควรจะมีเครื่องดื่มต้อนรับให้ลูกค้านะ (มัคคุเทศก์พูดกับทางโรงแรมซึ่งยังไม่เป็นมืออาชีพเรื่องการรับลูกค้ามาเข้าพัก)
There should be welcome drink for the clients.
ควรจะมีที่นั่งมากกว่านี้ให้นักท่องเที่ยวนะ
There should be more seats for tourists.
ควรจะมีส่วนลดให้เด็กๆนะ (การต่อรองเพื่อเข้าชม)
There should be a discount for children.
There should be a discount for kids.
ไม่ควรจะมีแพเธคในกาญจนบุรีมากเกินไป มันวุ่นวาย
There shouldn't be too many discotheque-rafts in Kanchanaburi ; it is a mess.
There shouldn't be too many discotheque-rafts in Kanchanaburi ; it is messy.
เพิ่มเติม (๓)
เมื่อต้องการสื่อความหมายถึงการสันนิษฐานว่า "คงจะมี.........." หรือ "สงสัยว่ามี........" ใช้รูปแบบว่า "There must be ...................."
คงจะมีที่นั่งเหลือ
There must be seats left.(ที่นั่งหลายตัว)
There must be a seat left. (ที่นั่งตัวเดียว)
สงสัยว่ามีคนเยอะในงานนี้
There must a lot of people in this party.
แบบฝึกหัดที่ ๑
1. มีหิ่งห้อยแถวนี้ (อดีต)
2. ไม่มีหิ่งห้อยแถวนี้ (อดีต)
3. มีหิ่งห้อยแถวนี้ไหม? (อดีต)
เฉลย
1. There was a fire-fly around here. (หมายถึงตัวเดียว)
There were fire-flies around here.(หมายถึงหลายตัว)
2. There wasn't any fire-fly around here.
There weren't any fire-flies around here.
3. Was there any fire-fly around here?
Were there any fire-flies around here?
4. มีหิ่งห้อยแถวนี้ (ปัจจุบัน)
5. ไม่มีหิ่งห้อยแถวนี้ (ปัจจุบัน)
6. มีหิ่งห้อยแถวนี้ไหม? (ปัจจุบัน)
เฉลย
4. There is a fire-fly around here.
There are fire-flies around here.
5. There isn't any fire-fly around here.
There aren't any fire-flies around here.
6. Is there any fire-fly around here?
Are there any fire-flies around here?
7. ป่านี้มีหิ่งห้อย (ปัจจุบัน)
8. ป่านี้ไม่มีหิ่งห้อย (ปัจจุบัน)
9. ป่านี้มีหิ่งห้อยไหม? (ปัจจุบัน)
เฉลย
7. This forest has fire-flies.
8. This forest doesn't have any fire-flies.
This forest hasn't any fire-flies.
9. Does this forest have any fire-flies?
Has this forest any fire-flies?
10. ป่านี้มีหิ่งห้อย (อดีต)
11. ป่านี้ไม่มีหิ่งห้อย? (อดีต)
12. ป่านี้มีหิ่งห้อยไหม? (อดีต)
เฉลย
10. This forest had fire-flies.
11. This forest didn't have any fire-flies.
12. Did this forest have any fire-flies?
13. หิ่งห้อยมีในป่านี้ (ปัจจุบัน)
14. หิ่งห้อยไม่มีในป่านี้ (ปัจจุบัน)
15. หิ่งห้อยมีในป่านี้ไหม? (ปัจจุบัน)
เฉลย
13. Fire-flies are available in this forest.
14. Fire-flies are not available in this forest.
Fire-flies are unavailable in this forest.
15. Are fire-flies available in this forest?
16. หิ่งห้อยมีในป่านี้ (อดีต)
17. หิ่งห้อยไม่มีในป่านี้ (อดีต)
18. หิ่งห้อยมีในป่านี้ไหม? (อดีต)
เฉลย
16. Fire-flies were available in this forest.
17. Fire-flies were not available in this forest.
Fire-flies were unavailable in this forest.
18. Were fire-flies availabele in this forest?
แบบฝึกหัดที่ ๒
1. โรงแรมนี้มี150ห้อง
2. ในโรงแรมนี้มี150ห้อง
3. ขณะนี้โรงแรมนี้มี150ห้อง ปีหน้าจะมีทั้งหมด250ห้อง
4. ขณะนี้โรงแรมนี้มี150ห้อง ปีหน้าโรงแรมจะมี250ห้อง
เฉลย
1. This hotel has 150 rooms.
2. In this hotel,there are 150 rooms.
3. Now this hotel has 150 rooms. Next year there will be 250 rooms.
4. Now this hotel has 150 rooms. Next year it(the hotel) will have 250 rooms.
5. ทางไปหาดมี3ทาง (ข้อเท็จจริง)
6. มีทางไปหาด3ทาง (ข้อเท็จจริง)
7. ไม่มีใครเหลืออยู่ที่หาด (ตอนนี้)
8. ไม่มีใครหลืออยู่ที่หาด (ตอนนั้น)
เฉลย
5. Three ways are available to the beach.
6. There are three ways to the beach.
7. There isn't anyone (anybody) left on the beach.
8. There wasn't anyone (anybody) left on the beach.
แบบฝึกหัดที่ ๓
1. ตลาดนี้มีเสาวรส(ขาย)ไหม?
2. เสาวรสมีในตลาดนี้บ้างไหม?
3. มีเสาวรสในตลาดนี้บ้างไหม?
หมายเหตุ เสารส สามารถเรียกได้ว่า passion fruit หรือ water lemon
เฉลย
1. Does this market have water-lemon (passion fruit)?
Has this market water-lemon (passion fruit)?
2. Is water-lemon(passion fruit) available in this market?
Are water-lemons (passion fruits) available in this market?
3. Is there any water-lemon (passion fruit) in this market?
Are there any water-lemons (passion fruits) in this market?
4. ตลาดนี้ไม่มีแตงโม (เรื่องปัจจุบัน)
5. แตงโมไม่มีในตลาดนี้ (เรื่องปัจจุบัน)
6. ไม่มีแตงโมในตลาดนี้ (เรื่องปัจจุบัน)
เฉลย
4. This market doesn't have water-melon.หรือ This market doesn't have any water-melon.
This market hasn't water-melon. หรือ This market hasn't any water-melon.
5. Water-melon is not available (unavailable) in this market.
Water-melons are not available (unavailable) in this market.
6. There isn't water-melon in this market. หรือ There isn't any water-melon in this market.
There aren't water-melon in this market. หรือ There aren't any water-melon in this market.
แบบฝึกหัดที่ ๔ (แนวการถาม เรื่องปัจจุบัน)
1. คุณมีเวลาไหม?
2. เวลามีไหม?
3. มีเวลาไหม?
4. มีเวลาให้เรื่องนี้ไหม?
5. คุณมีเวลาให้เรื่องนี้ไหม?
6. เวลามีให้เรื่องนี้ไหม?
7. เรามีเวลาที่จะอยู่หาดไหม?
8. เวลาที่จะอยู่หาดมีไหม?
9. มีเวลาที่จะอยู่หาดไหม?
เฉลย
1. Do you have time?/ Do you have any time?
Have you time? Have you any time?
2. Is time available? Is any time available?
3. Is there time? / Is there any time?
4. Is there time for this matter? / Is there any time for this matter?
5. Do you have time for this matter?/ Do you have any time for this matter?
Have you time for this mater? / Have you any time for this matter?
(บางครั้งผู้พูดอาจกล่าวว่า Have you got time for this matter? หรือ Have you got any time for this matter?)
6. Is time available for this matter? / Is any time available for this matter?
7. Do we have time to be on the beach? / Do we have time to stay on the beach?
Do we have any time to be on the beach?/ Do we have any time to stay on the beach?
Have we time to be on the beach?/ Have we time to stay on the beach?
Have we (got) any time to be on the beach?/ Have we (got) any time to stay on the beach?
8. Is time to be on the beach available? / Is time to stay on the beach available?
9. Is there (any)time to be on the beach? / Is there(any) time to stay on the beach?
แบบฝึกหัดที่ ๕
1. ร้านนี้มีบัตรโทรศัพท์ขายไหม?
2. มีบัตรโทรศัพท์ขายที่ร้านนี้ไหม?
3. คุณมีบัตรโทรศัพท์ขายไหม?
4. มีใครที่จะมาเป็นเพื่อนคุณไหม?
5. คุณมีใครที่จะมาเป็นเพื่อนไหม?
6. คนที่จะมาเป็นเพื่อนคุณมีไหม?
7. โรงแรมนี้มีรถรับส่งไปศูนย์การค้าไหม?
8. มีรถรับส่งไปศูนย์การค้าในโรงแรมนี้ไหม?
9.. มีรถรับส่งไปศูนย์การค้าจากโรงแรมนี้ไหม?
10. บัตรโทรศัพท์มีขายที่ร้านนี้ไหม?
เฉลย
1. Does this shop have a phone card for sale?
Has this shop a phone card for sale?
2. Is there a phone card for sale in this shop?
3. Do you have a phone card for sale?
Have you a phone card for sale?
4. Is there anyone to escort you?
Is there anyone to accompany you?
5. Do you have anyone to escort?
Do you have anyone to accompany?
Have you anyone to escort?
Have you anyone to accompany ?
6. Is anyone to escort you available?
Is anyone to accompany you available?
7. Does this hotel have a shuttle bust to a shopping center.
Has this hotel a shuttle bus to a shopping center.
8. Is there a shuttle bus in this hotel to a shopping center?
9. Is there a shuttle bus from this hotel to a shopping center?
10.Is a phone card available for sale in this shop?
แบบฝึกหัดที่ ๖ (แบบฝึกทักษะเฉพาะเรื่อง พระบรมมหาราชวัง)
1. พระที่นั่งองค์นี้มีเครื่องหลังคาชั้นลด(หลายชั้นซ้อนกัน)
2. พระที่นั่งองค์นี้มีเครื่องหลังคาซึ่งมีหลายชั้น(หลายชั้นซ้อนกัน)
3. อาคารหลังนี้มีพระบรมรูปของอดีตกษัตริย์ในราชวงศ์ปัจจุบัน (ปราสาทพระเทพบิดร)
4. มีพระบรมรูปของอดีตกษัตริย์ในราชวงศ์ปัจจุบันในอาคารหลังนี้ (ปราสาทพระเทพบิดร)
5. มีกรงนกขนาดใหญ่ตรงนี้ (กรงนกได้ถูกรื้อไปแล้ว ตำแหน่งอยู่ระหว่างสนามหญ้าหน้าพระที่นั่งจักรีและพระที่ดุสิตาภิรมย์)
6. มีพระพุทธรูปสำคัญหลายองค์ในอาคารนี้ (หอพระนาก)
7. พระพุทธรูปสำคัญหลายองค์มีอยู่ในอาคารนี้ (หอพระนาก)
8. พระพุทธรูปสำคัญหลายองค์ที่ใช้สำหรับพระราชพิธีมีอยู่ในอาคารนี้ (หอพระนาก)
9. มีพระพุทธรูปสำคัญหลายองค์ที่ใช้สำหรับพระราชพิธีมีอยู่ในอาคารนี้ (หอพระนาก)
10.วัดนี้(วัดพระแก้ว) ไม่มีที่อยู่สำหรับพระ
เฉลย
1. This building has a multi-layered roofing . /This building has a multi-layered roof structure.
This building has a multi-tiered roofing ./ This building has a multi-tiered roofing .
2. This building has a roofing which has multi-layers./This building has a roof structure which has multi-layers.
3. This building has the the former-king statues of the present dynasty.
4. There are the former-king statues of the present dynasty in this building.
5. There was a bird cage over here.
6. There are many important Buddha images in this building.
There are several / a lot of important Buddha images in this building.
7. Many important Buddha images are available in this building.
Several/A lot of important Buddha images are available in this building.
8. Many/Several/A lot of Buddha images that are used for the royal ceremonies are available in this building.
Many/Several/A lot of Buddha images used for the royal ceremonies are available in this building.9. There are many/several/a lot of Buddha images that are used for the royal ceremonies in this building.
There are many/several/a lot of Buddha images used for the royal ceremonies in this building
10.This temple doesn't have monks'living quarters.
This temple hasn't monks'living quarters.
แบบฝึกหัดที่ ๗
1. ร้านขายผักผลไม้มีอยู่ใกล้โรงแรมไหม?
2. ร้านขายผักผลไม้ไม่มีอยู่ใกล้โรงแรมหรือ?
3. มีร้านขายผักผลไม้อยู่ใกล้โรงแรมไหม?
4. ไม่มีร้านขายผักผลไม้อยู่ใกล้โรงแรมหรือ?
5. โรงแรมมีร้านขายผักผลไม้อยู่ใกล้ๆไหม?
6. โรงแรมไม่มีร้านขายผักผลไม้อยู่ใกล้ๆหรือ?
7. รถบัสมีที่นั่งว่าง๒ที่ไหม?
8. รถบัสไม่มีที่นั่งว่าง๒ที่หรือ?
9. มีสารกันบูดในอาหารนี้หรือเปล่า?
10.สารกันบูดมีในอาหารนี้หรือเปล่า?
11.จังหวัดนี้มีน้ำตกบ้างไหม?
12.น้ำตกไม่มีในจังหวัดนี้เลย
เฉลย
1. Is a green-grocery available near the hotel?
2. Isn't a green-grocery available near the hotel?
3. Is there a green-grocery near the hotel?
Is there any green-grocery near the hotel?
4. Isn't there a green-grocery near the hotel?
Isn't there any green-grocery near the hotel?
5. Does the hotel have a green-grocery nearby?
Has the hotel a green-grocery nearby?
6. Doesn't the hotel have a green-grocery nearby?
Hasn't the hotel a green-grocery nearby?
7. Does the bus have two spare seats?
Has the bus two spare seats?
8. Doesn't the bus have two spare seats?
Hasn't the bus two spare seats?
9. Is there preservative in this food?
10.Is preservative available in this food?
11.Does this province have any waterfall?
Has this province any waterfall?
12.Any waterfall is not available in this province?
9. Is there preservative in this food?
10.Is preservative available in this food?
11.Does this province have any waterfall?
Has this province any waterfall?
12.Any waterfall is not available in this province?
การเทียบความหมาย "can be+V3" ในภาษาไทย
การเทียบความหมาย "can be +V3" ในภาษาไทย
โครงสร้างกลุ่มคำ can be + V3 ใช้ในความหมายถึงว่า สิ่งนั้น หรือคนนั้นถูกกระทำ หรือได้รับการกระทำนั้นได้ ถ้าใช้ cannot ก็จะได้ความหมายเป็นว่า "ไม่ได้"
ตัวอย่างประโยคที่ให้ศึกษาเพื่อทำความเข้าใจ
ตัวอย่างที่ ๑
" วันนี้เที่ยวบินของนกแอร์ถูกดำเนินการไม่ได้" ประโยคที่ใช้กันจริงจะเหลือเป็น "วันนี้เที่ยวบินของนกแอร์ดำเนินการไม่ได้" ได้ประโยคภาษาอังกฤษว่า "Today many flights of Nok Air cannot be operated."
(จากข่าวเรื่องการงดบินของสายการบินนกแอร์บางเที่ยวบินในวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ เนื่องจากมีนักบินกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันประท้วง)
ตัวอย่างที่ ๒
"ที่นั่งถูกเลือกไม่ได้" ประโยคที่ใช้กันจริงจะเหลือเป็น "ที่นั่งเลือกไม่ได้"ได้ประโยคภาษาอังกฤษว่า"Seats cannot be chosen." หรือ "A seat cannot be chosen."
ตัวอย่างที่ ๓
"กระแสน้ำแรงมากจนถูกต้านทานไว้ไม่ไหว" ประโยคที่ใช้กันจริงจะเหลือเป็น"กระแสน้ำแรงมากจนต้านทานไว้ไม่ไหว" ได้ประโยคภาษาอังกฤษว่า "The water current(หรือ current คำเดียวก็ได้ ถ้าเข้าใจกันอยู่แล้ว) is so strong that it cannot be resisted."
ตัวอย่างที่ ๔
"เขาเป็นเจ้าของภาษาอังกฤษที่พูดได้ชัดเจนมาก มัน(การพูดจาของเขา)ถูกเข้าใจได้ง่าย" ประโยคที่ใช้กันจริงจะเหลือเป็น"เขาเป็นเจ้าของภาษาอังกฤษที่พูดได้ชัดเจนมาก มัน(การพูดจาของเขา)เข้าใจได้ง่าย" ได้ประโยคภาษาอังกฤษว่า "He is a native English speaker who speaks very clearly;it can be easily understood."
ตัวอย่างที่ ๕
"อันนี้ถูกย้ายออกได้ไหม?" ประโยคที่ใช้พูดจริงคือ "อันนี้ย้ายออกได้ไหม?" ได้ประโยคภาษาอังกฤษว่า "Can this one be moved away?"
ตัวอย่างที่ ๖
"กาบมะพร้าวถูกทำเป็นที่นอนได้" ประโยคที่ใช้พูดจริงคือ "กาบมะพร้าวทำเป็นที่นอนได้" (เรียกกันว่า ที่นอนใยมะพร้าว) ได้ประโยคภาษาอังกฤษว่า "Coir can be made as mattress" หรือ "Coconut fibrous husk can be made as mattress."
ตัวอย่างที่ ๗
"วัดอรุณถูกมองเห็นได้สวยสุดตอนเช้าตรู่" ประโยคที่ใช้พูดจริงคือ "วัดอรุณมองเห็นได้สวยสุดตอนเช้าตรู่" ได้ประโยคภาษาอังกฤษว่า "Wat Arun can be seen most beautiful at dawn." หรือ "Wat Arun can be seen most beautiful in the early morning."
โครงสร้างกลุ่มคำ can be + V3 ใช้ในความหมายถึงว่า สิ่งนั้น หรือคนนั้นถูกกระทำ หรือได้รับการกระทำนั้นได้ ถ้าใช้ cannot ก็จะได้ความหมายเป็นว่า "ไม่ได้"
ตัวอย่างประโยคที่ให้ศึกษาเพื่อทำความเข้าใจ
ตัวอย่างที่ ๑
" วันนี้เที่ยวบินของนกแอร์ถูกดำเนินการไม่ได้" ประโยคที่ใช้กันจริงจะเหลือเป็น "วันนี้เที่ยวบินของนกแอร์ดำเนินการไม่ได้" ได้ประโยคภาษาอังกฤษว่า "Today many flights of Nok Air cannot be operated."
(จากข่าวเรื่องการงดบินของสายการบินนกแอร์บางเที่ยวบินในวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ เนื่องจากมีนักบินกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันประท้วง)
ตัวอย่างที่ ๒
"ที่นั่งถูกเลือกไม่ได้" ประโยคที่ใช้กันจริงจะเหลือเป็น "ที่นั่งเลือกไม่ได้"ได้ประโยคภาษาอังกฤษว่า"Seats cannot be chosen." หรือ "A seat cannot be chosen."
ตัวอย่างที่ ๓
"กระแสน้ำแรงมากจนถูกต้านทานไว้ไม่ไหว" ประโยคที่ใช้กันจริงจะเหลือเป็น"กระแสน้ำแรงมากจนต้านทานไว้ไม่ไหว" ได้ประโยคภาษาอังกฤษว่า "The water current(หรือ current คำเดียวก็ได้ ถ้าเข้าใจกันอยู่แล้ว) is so strong that it cannot be resisted."
ตัวอย่างที่ ๔
"เขาเป็นเจ้าของภาษาอังกฤษที่พูดได้ชัดเจนมาก มัน(การพูดจาของเขา)ถูกเข้าใจได้ง่าย" ประโยคที่ใช้กันจริงจะเหลือเป็น"เขาเป็นเจ้าของภาษาอังกฤษที่พูดได้ชัดเจนมาก มัน(การพูดจาของเขา)เข้าใจได้ง่าย" ได้ประโยคภาษาอังกฤษว่า "He is a native English speaker who speaks very clearly;it can be easily understood."
ตัวอย่างที่ ๕
"อันนี้ถูกย้ายออกได้ไหม?" ประโยคที่ใช้พูดจริงคือ "อันนี้ย้ายออกได้ไหม?" ได้ประโยคภาษาอังกฤษว่า "Can this one be moved away?"
ตัวอย่างที่ ๖
"กาบมะพร้าวถูกทำเป็นที่นอนได้" ประโยคที่ใช้พูดจริงคือ "กาบมะพร้าวทำเป็นที่นอนได้" (เรียกกันว่า ที่นอนใยมะพร้าว) ได้ประโยคภาษาอังกฤษว่า "Coir can be made as mattress" หรือ "Coconut fibrous husk can be made as mattress."
ตัวอย่างที่ ๗
"วัดอรุณถูกมองเห็นได้สวยสุดตอนเช้าตรู่" ประโยคที่ใช้พูดจริงคือ "วัดอรุณมองเห็นได้สวยสุดตอนเช้าตรู่" ได้ประโยคภาษาอังกฤษว่า "Wat Arun can be seen most beautiful at dawn." หรือ "Wat Arun can be seen most beautiful in the early morning."
ตัวอย่างที่ ๘
"ยานี้ถูกเก็บได้ไม่เกิน๒เดือน" ประโยคที่ใช้จริงคือ "ยานี้เก็บได้ไม่เกิน๒เดือน" ได้ประโยคภาษาอังกฤษว่า This medicine can be kept not longer than 2 months. หรือ This medicine can be kept not more than 2 months.
ตัวอย่างที่ ๙
"เสียงไก่ร้องกระต๊ากถูกได้ยินกันทั้งวัน" หรือ "เสียงไก่ร้องกระต๊ากเป็นที่ได้ยินกันทั้งวัน" ประโยคที่ใช้จริงคือ "เสียงไก่ร้องกระต๊ากได้ยินกันทั้งวัน" ได้ประโยคภาษาอังกฤษว่า "Cackle can be heard all day long. หรือ "Cackle can be heard throughout the day."
ตัวอย่างรวม
๑. หญ้าแฝกพบได้แถวนี้ (ความหมายคือ หญ้าแฝกถูกพบได้แถวนี้)
พบ กริยา3ช่องคือ find found found
๒. ที่นั่งตัวนี้นั่งไม่ได้ (ความหมายคือ ที่นั่งตัวนี้ถูกนั่งไม่ได้)
ใช้คำว่า take กริยา3ช่องคือ take took taken
๓. ตั๋วแบบนี้ขอคืนเงินไม่ได้ (ควาหมายคือ ตั๋วแบบนี้ถูกเรียกขอเงินคืนไม่ได้)
refund refunded refunded
๔. ห้องน้ำนี้ใช้ไม่ได้ (ความหมายคือ ห้องน้ำนี้ถูกใช้ไม่ได้)
กริยา3ช่อง คือuse used used
๕. อันนี้จ่ายเป็นบัตรเครดิตได้ค่ะ
กริยา3ช่องคือ pay paid paid
ตัวอย่างรวม
๑. หญ้าแฝกพบได้แถวนี้ (ความหมายคือ หญ้าแฝกถูกพบได้แถวนี้)
พบ กริยา3ช่องคือ find found found
๒. ที่นั่งตัวนี้นั่งไม่ได้ (ความหมายคือ ที่นั่งตัวนี้ถูกนั่งไม่ได้)
ใช้คำว่า take กริยา3ช่องคือ take took taken
๓. ตั๋วแบบนี้ขอคืนเงินไม่ได้ (ควาหมายคือ ตั๋วแบบนี้ถูกเรียกขอเงินคืนไม่ได้)
refund refunded refunded
๔. ห้องน้ำนี้ใช้ไม่ได้ (ความหมายคือ ห้องน้ำนี้ถูกใช้ไม่ได้)
กริยา3ช่อง คือuse used used
๕. อันนี้จ่ายเป็นบัตรเครดิตได้ค่ะ
กริยา3ช่องคือ pay paid paid
๖. ทองแดงกับดีบุกหลอมด้วยกันได้เป็นทองสำริด
๗. ขนเป็ดใช้ทำหมอนคุณภาพสูงได้
(โรงแรมระดับ5ดาว เช่น Mandarin Oriental ใช้หมอนที่ใส่ขนเป็ด)
๘. เครื่องบินของนกแอร์ไม่สามารถลงจอดที่ดอนเมืองได้ เพราะฝนตกหนัก (แม้จะลอยตัวรออยู่ประมาณ๑๔-๑๕ นาที จึงต้องบินไปพิษณุโลกเพื่อเติมน้ำมัน อ้างอิง ข่าว ๓ ก.ย. ๒๕๕๘)
๙. ศาสนาพุทธแบ่งได้เป็น๒นิกายใหญ่ๆ หินยานและมหายาน
๑๐.ดอกไม้นี้เรียกเป็นภาษาไทยว่า ดอกกระเจียว และเรียกเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า "สยามทิวลิป"
๗. ขนเป็ดใช้ทำหมอนคุณภาพสูงได้
(โรงแรมระดับ5ดาว เช่น Mandarin Oriental ใช้หมอนที่ใส่ขนเป็ด)
๘. เครื่องบินของนกแอร์ไม่สามารถลงจอดที่ดอนเมืองได้ เพราะฝนตกหนัก (แม้จะลอยตัวรออยู่ประมาณ๑๔-๑๕ นาที จึงต้องบินไปพิษณุโลกเพื่อเติมน้ำมัน อ้างอิง ข่าว ๓ ก.ย. ๒๕๕๘)
๙. ศาสนาพุทธแบ่งได้เป็น๒นิกายใหญ่ๆ หินยานและมหายาน
๑๐.ดอกไม้นี้เรียกเป็นภาษาไทยว่า ดอกกระเจียว และเรียกเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า "สยามทิวลิป"
๑๑. ลายมือของเขาอ่านไม่ออกเลย
๑๒. กล่าวได้ว่า(มันถูกกล่าวกันได้ว่า) ยุคทองของวรรณคดีอยุธยา อยู่ในรัชสมัยของพระนารายณ์
เฉลย
1. Elephant grass can be found around here.
(หญ้าแฝก เรียกได้อีกชื่อว่า vetiver)
2. This seat(The seat) cannot be taken.
3. The ticket/A ticket like this cannot be refunded.
4. The/This toilet(rest room) cannot be used.
เฉลย
1. Elephant grass can be found around here.
(หญ้าแฝก เรียกได้อีกชื่อว่า vetiver)
2. This seat(The seat) cannot be taken.
3. The ticket/A ticket like this cannot be refunded.
4. The/This toilet(rest room) cannot be used.
(อีกทางเลือก พูดว่า This toilet is occupied.ห้องน้ำนี้มีคนใช้อยู่ แต่ไม่ได้มีความหมายเหมือนกันเสมอไป เพราะห้องน้ำใช้ไม่ได้อาจจะหมายถึง ห้องน้ำเสีย This toilet is out of order. ในภาษาพูดบางทีใช้สำนวนว่า This toilet is broken.ห้องน้ำพังแล้ว(ห้องน้ำส้วมแตกแล้ว)
5. This one can be paid by credit card.
5. This one can be paid by credit card.
6. Copper and tin can be melted together to be bronze
Copper and tin can be melted together as bronze
7. Duck feather can be made as high quality pillow.
Duck feather can be made as high grade pillow.
8. A plane of Nok Air could not be landed at Donmuang Airport because of the heavy rain. (Ref. news of 3 Sept 2015 After flying above Donmuang about 14-15 minutes, it was taken to fill fuel at Phitsanulok airport.)
9. Buddhism can be divided into two main sects--Hinayana sect and Mahayana sect.
10.This flower is called in Thai as Krajiao (or Krajeaw) and it can be called in English as Siam Tulip.
7. Duck feather can be made as high quality pillow.
Duck feather can be made as high grade pillow.
8. A plane of Nok Air could not be landed at Donmuang Airport because of the heavy rain. (Ref. news of 3 Sept 2015 After flying above Donmuang about 14-15 minutes, it was taken to fill fuel at Phitsanulok airport.)
9. Buddhism can be divided into two main sects--Hinayana sect and Mahayana sect.
10.This flower is called in Thai as Krajiao (or Krajeaw) and it can be called in English as Siam Tulip.
11. His writing cannot be read at all.
(อีกทางเลือกก็คือ His writing is illegible at all.)
12. It can be said that Ayutthaya's golden age of literature was (หรือ is ก็ได้) in the regnal years of King Narai.
แบบฝึกหัดที่1
1. วิวสวยๆของหาดนี้เห็นได้ชัดเจนจากจุดชมวิวตรงโน้น ( แปลว่า วิวสวยๆของหาดนี้ถูกเห็นได้ชัดเจนจากจุดชมวิว ตรงโน้น) viewpoint/view-point จุดชมวิว
2. กล้วยหวีนี้กินได้วันพรุ่งนี้ (ตอนนี้ยังไม่สุก)
3. คำนี้แปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า....... (คำนี้ถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า...........)
4. ไอศกรีมของเขาโรยถั่วลิสงไม่ได้นะ (แปลว่าไอศกรีมของเขาถูกโรยด้วยถั่วลิงสงไม่ได้นะ อาจเพราะว่าเขาแพ้ถั่วลิสง) sprinkle โรย,โปรย,พรม
5. ถ้าเกลือไม่มี มัน(อาหารที่ว่าถึง)ก็ปรุงด้วยน้ำปลาได้ ( fishsauce/ fish-sauch น้ำปลา )
เฉลย
1. The beautiful view of this beach can be clearly seen from the view-point over there.
2. This cluster of bananas can be eaten tomorrow.
3. This word can be translated into English as.......................
4. His icecream cannot be sprinkled (topped) with peanut (หรือ ground nut).
5. If salt is not available ,it can be cooked with fishsauce.
แบบฝึกหัดที่ 2
1. ดอกกระเจียวแทบจะหาไม่ได้ในฤดูนี้ (ดอกกระเจียวแทบจะถูกหาไม่ได้ในฤดูนี้)
2. ดอกกระเจียวพบได้ง่ายในเดือนนี้ (ดอกกระเจียวถูกพบได้ง่ายในดือนนี้)
3. ทางนี้ใช้ไม่ได้ (ทางนี้ถูกใช้ไม่ได้)
4. อันนี้กินไม่ได้ (อันนี้ถูกกินไม่ได้)
5. อันนี้จ่ายเป็นบัตรเครดิตได้ (อันนี้ถูกจ่ายเป็นบัตรเครดิตได้)
6. ที่นั่งนี้นั่งได้ (ที่นั่งนี้ถูกนั่งได้)
7. อันนี้ขายไม่ได้ (อันนี้ถูกขายไม่ได้)
8. อันนี้ซ่อมได้ (อันนี้ถูกซ่อมได้)
9. สัตว์เลี้ยงนำเข้ามาไม่ได้ (สัตว์เลี้ยงถูกนำเข้ามาไม่ได้)
10. พืชนี้ทานไม่ได้ (พืชนี้ถูกทานไม่ได้)
เฉลย
1. Siam Tulip can hardly be found in this season./ Siam Tulips can hardly be found in this season.
2. Siam Tulip can be easily found in this month./ A Siam Tulip can be easily found in this month./ Siam Tulips can be easily found in this month.
3. This way cannot be used.
4. This one cannot be eaten. (ในชีวิตจริงพูดได้อีกอย่างว่า This one is inedible.)
5. This one can be paid by credit card.
6. This seat can be taken./The seat can be taken.
7. This one cannot be sold.
8. This one can be fixed (หรือ repaired).
9. Pet cannot be brought in./A pet cannot be brought in./ Pets cannot be brought in.
10. This plant cannot be eaten (พูดได้อีกอย่างว่า This plant is inedible.)
แบบฝึกหัดที่ 3
1. ตามวินัยสงฆ์ อาหารเก็บเป็นสมบัติส่วนตัวค้างคืนไม่ได้
2. ตอนนั้นพระบรมสารีริกธาตุเอาไปไม่ได้ เพราะพวกนักล่าสมบัติไม่รู้หรือไม่มีเวลา ถ้าคุณอยากรู้คุณจะต้องไปถามพวกมันว่าทำไมพวกมันไม่เอาไป
3. เชียงใหม่เข้ายึดไม่ได้ในครั้งแรกที่พระเจ้าตากตี
4. เมืองปัจจันตคีรีตอนนั้นหรือเกาะกงตอนนี้เอาคืนมาจากฝรั่งเศสไม่ได้ (กล่าวถึงเรื่องเมืองที่สยามสูญเสียให้แก่ฝรั่งเศส ซึ่งปัจจุบันตกเป็นส่วนหนึ่งของประเทศกัมพูชาไปแล้ว เรียกว่า เกาะกง ดังนั้นจึงยังมีประชาชนอยู่จำนวนมากที่พูดภาษาไทยกันอยู่ แต่ถือสัญชาติกัมพูชา)
5. หลังคานี้รื้อไม่ได้แต่ซ่อมได้
6. ทางนี้เข้าได้
7. ทางนี้เข้าได้ไหม?
8. ทางนี้เข้าไม่ได้
9. เขาบวชเป็นพระไม่ได้เพราะอายุยังไม่ถึง20
( be ordained as...............บวชเป็น..................)
10. พญานาคบวชเป็นพระไม่ได้เพราะไม่ใช่มนุษย์ มีกฎห้ามในพระไตรปิฎก
11. จันทบุรีเข้ายึดไม่ได้ในทันที เพราะเจ้าเมืองไม่ยอมจำนน (กล่าวถึงเหตุการณ์ที่พระยาตากเข้าตีเมืองจันทบุรี)
12. เขมรปราบไม่ได้ในสมัยพระเจ้าทรงธรรม (กล่าวถึงเหตุการณ์ที่สยาม-อยุธยายกทัพเพื่อไปตีอาณาจักรกัมพูชาที่แข็งเมือง)
13. วัดนี้เข้าได้ทั้งทางน้ำและทางบก
14. ห้องน้ำนี้ใช้ไม่ได้
15. เรื่องนี้ถามพระไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องทางโลก
16. คำนี้แปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า ..................
เฉลย
1. According to monk's discipline,food cannot be kept as personal (หรือ private) possession for overnight.
According to monk's discipline,food cannot be kept as overnight personal (หรือ private) possession.
2. Then the Buddha's relic could not be taken because the treasure hunters didn't know or didn't have time. If you want to know ,you have to ask them why they didn't take it.
3. Chiengmai could not be seized (หรือ captured หรือ occupied) for the first time when King Taksin attacked it.
4. Patchantakhiri then or now Koh Kong could not be brought back from the French.
Patchantakhiri then or now Koh Kong could not be returned from the French.
5. This roof cannot be removed but can be fixed (หรือ repaired).
This roof cannot be dismantled (หรือ demolished) but can be fixed (หรือ repaired).
6. This way can be entered.
7. Can this way be entered?
8. This way cannot be entered.
9. He cannot be ordained as a monk because he is not 20 years old yet.
He cannot be ordained as a monk because he hasn't reached 20 years of age (20 years old) yet.
10. A Naga cannot be ordained as a monk because he is not human being. There is a prohibition(หรือ taboo) in the Tripitaka-- the Buddhist scripture.
11. Chanthaburi could not be seized (captured/occupied) right away (หรือ immediately หรือ at once) because the governor didn't surrender.
12. The Khmer could not be defeated (overcome) in the reign of King Songtham.
13. This temple can be entered by both waterway and land.
14. This toilet cannot be used.
15. This matter cannot be asked from the monk (the monks) because it is a worldly matter(affair).
(นอกจากจะใช้ worldly matter/worldly affair ก็สามารถใช้ศัพท์เฉพาะได้คือ mundane แปลว่า ทางโลก)
16. This word can be translated into English as..............................
แบบฝึกหัดที่ 4
1. ทุเรียนเรียกเป็นภาษาอังกฤษได้อีกชื่อหนึ่งว่า Civet Fruit
2. พระบรมมหาราชวังแบ่งได้เป็น 4 ส่วน พระราชฐานส่วนนอก พระราชฐานส่วนกลาง พระราชฐานส่วนใน และ บริเวณวัดพระแก้ว
( be+divided +into = แบ่งเป็น......)
3. วัดอรุณเที่ยวหลัง6โมงเย็นก็ได้ แต่ประตูเข้าพระปรางค์เข้าไม่ได้
4. วัดอรุณเที่ยวได้อย่างเป็นทางการตั้งแต่ 8โมงเช้าถึง6โมงเย็น
5. แม้ว่าวัดอรุณจะเข้าหลัง6โมงเย็นก็ได้ แต่พระปรางค์เที่ยวได้ช่วงระหว่าง8โมงเช้าถึง6โมงเย็นเท่านั้น
6. ชามะนาวนี้ทำให้หวานได้ด้วยน้ำเชื่อม
( sweeten (v) ทำให้หวาน)
7. รัชกาลที่4 เรียกพระนาม(ขนานพระนาม)เป็นภาษาอังกฤษได้ว่า "คิงมงกุฎ"
8. ค่าก่อสร้างกะประมาณไม่ได้ในขณะนี้
9. วันนี้พระบรมมหาราชวังเข้าไม่ได้เพราะมีพระราชพิธี
เฉลย
1. Durian can be called in another English name as Civet Fruit.
Durian can be called in another name in English as Civet Fruit.
2. The Royal Grand Palace can be divided into 4 parts--the outer court,the middle court, the inner court and the compound of the Emerald Buddha Temple.
3. Wat Arun can also be visited after 6 pm but the gate to the prang cannot be entered.
4. Wat Arun can officially be visited from 8 am to 6 pm.
Officially, Wat Arun can be visited from 8 am to 6 pm.
5. Although Wat Arun can also be entered after 6 pm , the prang can be visited only between 8 am and 6 pm.
(หมายเหตุ ห้ามใช้ but วางไว้หน้า the prang เพราะในภาษาอังกฤษที่เป็นแม่แบบจะไม่ใช้ althoughคู่กับ but ถึงแม้ว่าในชีวิตจริงอาจจะเคยได้ยินบ้าง แต่ถือว่าเป็นภาษาวิบัติ(ก็ไม่ได้เสียหายอะไรมากมายสำหรับการสื่อสาร แต่เป็นเรื่องเสียหายสำหรับผู้ที่ไปสอนผู้อื่น เพราะถ้าสอนผิดกันมากๆ อาจกลายเป็นกระแส จากผิดกลายเป็นเข้าใจว่าถูก)
6. This lemon-tea can be sweetened with syrup.
แบบฝึกหัดที่1
1. วิวสวยๆของหาดนี้เห็นได้ชัดเจนจากจุดชมวิวตรงโน้น ( แปลว่า วิวสวยๆของหาดนี้ถูกเห็นได้ชัดเจนจากจุดชมวิว ตรงโน้น) viewpoint/view-point จุดชมวิว
2. กล้วยหวีนี้กินได้วันพรุ่งนี้ (ตอนนี้ยังไม่สุก)
3. คำนี้แปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า....... (คำนี้ถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า...........)
4. ไอศกรีมของเขาโรยถั่วลิสงไม่ได้นะ (แปลว่าไอศกรีมของเขาถูกโรยด้วยถั่วลิงสงไม่ได้นะ อาจเพราะว่าเขาแพ้ถั่วลิสง) sprinkle โรย,โปรย,พรม
5. ถ้าเกลือไม่มี มัน(อาหารที่ว่าถึง)ก็ปรุงด้วยน้ำปลาได้ ( fishsauce/ fish-sauch น้ำปลา )
เฉลย
1. The beautiful view of this beach can be clearly seen from the view-point over there.
2. This cluster of bananas can be eaten tomorrow.
3. This word can be translated into English as.......................
4. His icecream cannot be sprinkled (topped) with peanut (หรือ ground nut).
5. If salt is not available ,it can be cooked with fishsauce.
แบบฝึกหัดที่ 2
1. ดอกกระเจียวแทบจะหาไม่ได้ในฤดูนี้ (ดอกกระเจียวแทบจะถูกหาไม่ได้ในฤดูนี้)
2. ดอกกระเจียวพบได้ง่ายในเดือนนี้ (ดอกกระเจียวถูกพบได้ง่ายในดือนนี้)
3. ทางนี้ใช้ไม่ได้ (ทางนี้ถูกใช้ไม่ได้)
4. อันนี้กินไม่ได้ (อันนี้ถูกกินไม่ได้)
5. อันนี้จ่ายเป็นบัตรเครดิตได้ (อันนี้ถูกจ่ายเป็นบัตรเครดิตได้)
6. ที่นั่งนี้นั่งได้ (ที่นั่งนี้ถูกนั่งได้)
7. อันนี้ขายไม่ได้ (อันนี้ถูกขายไม่ได้)
8. อันนี้ซ่อมได้ (อันนี้ถูกซ่อมได้)
9. สัตว์เลี้ยงนำเข้ามาไม่ได้ (สัตว์เลี้ยงถูกนำเข้ามาไม่ได้)
10. พืชนี้ทานไม่ได้ (พืชนี้ถูกทานไม่ได้)
เฉลย
1. Siam Tulip can hardly be found in this season./ Siam Tulips can hardly be found in this season.
2. Siam Tulip can be easily found in this month./ A Siam Tulip can be easily found in this month./ Siam Tulips can be easily found in this month.
3. This way cannot be used.
4. This one cannot be eaten. (ในชีวิตจริงพูดได้อีกอย่างว่า This one is inedible.)
5. This one can be paid by credit card.
6. This seat can be taken./The seat can be taken.
7. This one cannot be sold.
8. This one can be fixed (หรือ repaired).
9. Pet cannot be brought in./A pet cannot be brought in./ Pets cannot be brought in.
10. This plant cannot be eaten (พูดได้อีกอย่างว่า This plant is inedible.)
แบบฝึกหัดที่ 3
1. ตามวินัยสงฆ์ อาหารเก็บเป็นสมบัติส่วนตัวค้างคืนไม่ได้
2. ตอนนั้นพระบรมสารีริกธาตุเอาไปไม่ได้ เพราะพวกนักล่าสมบัติไม่รู้หรือไม่มีเวลา ถ้าคุณอยากรู้คุณจะต้องไปถามพวกมันว่าทำไมพวกมันไม่เอาไป
3. เชียงใหม่เข้ายึดไม่ได้ในครั้งแรกที่พระเจ้าตากตี
4. เมืองปัจจันตคีรีตอนนั้นหรือเกาะกงตอนนี้เอาคืนมาจากฝรั่งเศสไม่ได้ (กล่าวถึงเรื่องเมืองที่สยามสูญเสียให้แก่ฝรั่งเศส ซึ่งปัจจุบันตกเป็นส่วนหนึ่งของประเทศกัมพูชาไปแล้ว เรียกว่า เกาะกง ดังนั้นจึงยังมีประชาชนอยู่จำนวนมากที่พูดภาษาไทยกันอยู่ แต่ถือสัญชาติกัมพูชา)
5. หลังคานี้รื้อไม่ได้แต่ซ่อมได้
6. ทางนี้เข้าได้
7. ทางนี้เข้าได้ไหม?
8. ทางนี้เข้าไม่ได้
9. เขาบวชเป็นพระไม่ได้เพราะอายุยังไม่ถึง20
( be ordained as...............บวชเป็น..................)
10. พญานาคบวชเป็นพระไม่ได้เพราะไม่ใช่มนุษย์ มีกฎห้ามในพระไตรปิฎก
11. จันทบุรีเข้ายึดไม่ได้ในทันที เพราะเจ้าเมืองไม่ยอมจำนน (กล่าวถึงเหตุการณ์ที่พระยาตากเข้าตีเมืองจันทบุรี)
12. เขมรปราบไม่ได้ในสมัยพระเจ้าทรงธรรม (กล่าวถึงเหตุการณ์ที่สยาม-อยุธยายกทัพเพื่อไปตีอาณาจักรกัมพูชาที่แข็งเมือง)
13. วัดนี้เข้าได้ทั้งทางน้ำและทางบก
14. ห้องน้ำนี้ใช้ไม่ได้
15. เรื่องนี้ถามพระไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องทางโลก
16. คำนี้แปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า ..................
เฉลย
1. According to monk's discipline,food cannot be kept as personal (หรือ private) possession for overnight.
According to monk's discipline,food cannot be kept as overnight personal (หรือ private) possession.
2. Then the Buddha's relic could not be taken because the treasure hunters didn't know or didn't have time. If you want to know ,you have to ask them why they didn't take it.
3. Chiengmai could not be seized (หรือ captured หรือ occupied) for the first time when King Taksin attacked it.
4. Patchantakhiri then or now Koh Kong could not be brought back from the French.
Patchantakhiri then or now Koh Kong could not be returned from the French.
5. This roof cannot be removed but can be fixed (หรือ repaired).
This roof cannot be dismantled (หรือ demolished) but can be fixed (หรือ repaired).
6. This way can be entered.
7. Can this way be entered?
8. This way cannot be entered.
9. He cannot be ordained as a monk because he is not 20 years old yet.
He cannot be ordained as a monk because he hasn't reached 20 years of age (20 years old) yet.
10. A Naga cannot be ordained as a monk because he is not human being. There is a prohibition(หรือ taboo) in the Tripitaka-- the Buddhist scripture.
11. Chanthaburi could not be seized (captured/occupied) right away (หรือ immediately หรือ at once) because the governor didn't surrender.
12. The Khmer could not be defeated (overcome) in the reign of King Songtham.
13. This temple can be entered by both waterway and land.
14. This toilet cannot be used.
15. This matter cannot be asked from the monk (the monks) because it is a worldly matter(affair).
(นอกจากจะใช้ worldly matter/worldly affair ก็สามารถใช้ศัพท์เฉพาะได้คือ mundane แปลว่า ทางโลก)
16. This word can be translated into English as..............................
แบบฝึกหัดที่ 4
1. ทุเรียนเรียกเป็นภาษาอังกฤษได้อีกชื่อหนึ่งว่า Civet Fruit
2. พระบรมมหาราชวังแบ่งได้เป็น 4 ส่วน พระราชฐานส่วนนอก พระราชฐานส่วนกลาง พระราชฐานส่วนใน และ บริเวณวัดพระแก้ว
( be+divided +into = แบ่งเป็น......)
3. วัดอรุณเที่ยวหลัง6โมงเย็นก็ได้ แต่ประตูเข้าพระปรางค์เข้าไม่ได้
4. วัดอรุณเที่ยวได้อย่างเป็นทางการตั้งแต่ 8โมงเช้าถึง6โมงเย็น
5. แม้ว่าวัดอรุณจะเข้าหลัง6โมงเย็นก็ได้ แต่พระปรางค์เที่ยวได้ช่วงระหว่าง8โมงเช้าถึง6โมงเย็นเท่านั้น
6. ชามะนาวนี้ทำให้หวานได้ด้วยน้ำเชื่อม
( sweeten (v) ทำให้หวาน)
7. รัชกาลที่4 เรียกพระนาม(ขนานพระนาม)เป็นภาษาอังกฤษได้ว่า "คิงมงกุฎ"
8. ค่าก่อสร้างกะประมาณไม่ได้ในขณะนี้
9. วันนี้พระบรมมหาราชวังเข้าไม่ได้เพราะมีพระราชพิธี
เฉลย
1. Durian can be called in another English name as Civet Fruit.
Durian can be called in another name in English as Civet Fruit.
2. The Royal Grand Palace can be divided into 4 parts--the outer court,the middle court, the inner court and the compound of the Emerald Buddha Temple.
3. Wat Arun can also be visited after 6 pm but the gate to the prang cannot be entered.
4. Wat Arun can officially be visited from 8 am to 6 pm.
Officially, Wat Arun can be visited from 8 am to 6 pm.
5. Although Wat Arun can also be entered after 6 pm , the prang can be visited only between 8 am and 6 pm.
(หมายเหตุ ห้ามใช้ but วางไว้หน้า the prang เพราะในภาษาอังกฤษที่เป็นแม่แบบจะไม่ใช้ althoughคู่กับ but ถึงแม้ว่าในชีวิตจริงอาจจะเคยได้ยินบ้าง แต่ถือว่าเป็นภาษาวิบัติ(ก็ไม่ได้เสียหายอะไรมากมายสำหรับการสื่อสาร แต่เป็นเรื่องเสียหายสำหรับผู้ที่ไปสอนผู้อื่น เพราะถ้าสอนผิดกันมากๆ อาจกลายเป็นกระแส จากผิดกลายเป็นเข้าใจว่าถูก)
6. This lemon-tea can be sweetened with syrup.
(syrup ออกเสียงว่า ซิรัป ไม่ใช่ ไซรัป อย่างที่ภาษาไทยนิยมใช้)
7. King Ram IV can be called in English name as King Mongkut.
8. The construction cost cannot be estimated now.
9. Today the Grand Palace cannot be entered because there is a royal ceremony
แบบฝึกหัดที่ 5
1. อันนี้เปลี่ยนได้ไหม?
2. อันนี้เปลี่ยนไม่ได้หรือ?
3. อันนี้เอาไปได้ไหม?
4. อันนี้เอาไปไม่ได้หรือ?
5. อันนั้นเอาเข้ามาได้ไหม?
6. อันนั้นเอาเข้ามาไม่ได้หรือ?
7. เที่ยวบินเลื่อนได้ไหม?
8. เที่ยวบินเลื่อนไม่ได้หรือ?
เฉลย
1. Can this one be changed?
2. Can't this one be changed?
3. Can this one be taken?
4. Can't this one be taken?
5. Can that one be brought?
6. Can't that one be brought?
7. Can the flight be changed?
8. Can't the flight be changed?
Latest updated : 10th Aug 2020
7. King Ram IV can be called in English name as King Mongkut.
8. The construction cost cannot be estimated now.
9. Today the Grand Palace cannot be entered because there is a royal ceremony
แบบฝึกหัดที่ 5
1. อันนี้เปลี่ยนได้ไหม?
2. อันนี้เปลี่ยนไม่ได้หรือ?
3. อันนี้เอาไปได้ไหม?
4. อันนี้เอาไปไม่ได้หรือ?
5. อันนั้นเอาเข้ามาได้ไหม?
6. อันนั้นเอาเข้ามาไม่ได้หรือ?
7. เที่ยวบินเลื่อนได้ไหม?
8. เที่ยวบินเลื่อนไม่ได้หรือ?
เฉลย
1. Can this one be changed?
2. Can't this one be changed?
3. Can this one be taken?
4. Can't this one be taken?
5. Can that one be brought?
6. Can't that one be brought?
7. Can the flight be changed?
8. Can't the flight be changed?
Latest updated : 10th Aug 2020
การใช้ "Can" และ " be+able+to" เพื่อแสดงความสามารถ
การใช้ "Can" และ "be+able+to" เพื่อแสดงความสามารถ
โดยทั่วไปเรามักจะใช้คำว่า Can ในภาษาไทยว่า "สามารถ" แต่อย่างเดียว เช่น You can book the ticket now.คุณสามารถจองตั๋วได้ในตอนนี้ ซึ่งที่จริงการใช้พูดมักจะนิยมความหมายลักษณะว่า ทำอะไรได้ ทำอะไรเป็นมากกว่า และการใช้ Can แต่อย่างเดียวเพื่อสื่อความหมายแสดงความสามารถ ไม่เพียงพอที่จะใช้สื่อสารในภาษาอังกฤษ เพราะโครงสร้าง กลุ่มคำ be+able+to ก็มีความหมายเช่นเดียวกัน และหลีกเลี่ยงที่จะไม่ใช้ไม่ได้ เนื่องจากผู้พูดอาจจะเลือกใช้คำลักษณะนี้ ทำนองเดียวกับการใช้ คำว่า กิน และ ทาน ที่มีความเหมือนกันในภาษาไทย
ตัวอย่าง
๑. คุณเข้าพักได้เลยค่ะ
You can check-in now(right now).
You are able to check-in now(right now).
๒. เขา(ผู้หญิง)พูดภาษากวางตุ้งได้ไหม?
Can she speak Cantonese?
Is she able to speak Cantonese?
๓. ฉัน/ผม ไปเป็นเพื่อนคุณไม่ได้
I cannot accompany(escort) you.
I am not able to accompany(escort) you.
๔. คุณทานอาหารเผ็ดเป็นไหม?
Can you eat/have spicy food?
Are you able to eat/have spicy food?
๕. คุณจ่ายเงินสดได้ไหมคะ/ครับ?
Can you pay in cash?
Are you able to pay in cash?
๖. ในประเทศเวียตนาม เขาลาคลอดกันได้๖เดือน แต่ในประเทศไทยลาได้แค่๓เดือน
In Vietnam, they can have pregnancy leave for 6 months but in Thailand they can have only 3 months.
It's a pity! In the main match of last night , the red one could not use his floorer to knock out the blue one.
แบบฝึกหัดที่ 1
1. คุณหาเวลาว่างมาเที่ยวหาดนางรำได้ไหม?
2. พรุ่งนี้คุณตื่นแต่เช้าไปทัวร์ตลาดน้ำได้ไหม?
3. เราติดต่อคนขับรถไม่ได้
4. เราเข้าไปในกรุของเจดีย์ไม่ได้
5. เขาขอเงินคืนไม่ได้
เฉลย
1. Can you spare (seek) time to visit Nangram beach?
Are you able to spare(seek) time to visit Nangram beach?
2. Can you wake up(get up) early to the tour to floating market tomorrow?
Can you wake up (get up) early to the floating market tour tomorrow?
Tomorrow, can you wake up (get up) early to the tour to floating market?
Tomorrow, can you wake up(get up) early to the floating market tour?
Are you able to wake up(get up) early to the tour to floating market tomorrow?
Are you able to wake up(get up) early to the floating market tour tomorrow?
Tomorrow , are you able to wake up (get up) early to the tour to floating market?
Tomorrow, are you able to wake up(get up) early to the floating market tour?
3. We cannot contact the driver. (ความหมาย เป็นปัจจุบัน)
We are not able to contact the driver. (ความหมาย เป็นปัจจุบัน)
We could not contact the driver. (ความหมายเป็นอดีต)
We were not able to contact the driver. (ความหมายเป็นอดีต)
4. We cannot enter (get into) the crypt of the chedi(stupa).
We are not able to enter(get into) the crypt of the chedi(stupa).
We could not enter(get into) the crypt of the chedi(stupa).
We were not able to enter(ge into) the crypt of the chedi(stup).
5. He(She) cannot refund.
He(She) is not able to refund.
He(She) could not refund.
He(She) was not able to refund.
แบบฝึกหัดที่ 2
1. คุณเห็นค้างคาวได้หรือเปล่าตอนที่คุณอยู่ในถ้ำ? (ตอนนั้น ในอดีต)
2. คุณบอกฉันได้หรือเปล่า? (เรื่องในปัจจุบัน)
3. คุณช่วยมันได้หรือเปล่า? (ตอนนั้น ในอดีต)
4. คุณเล่าเรื่องผีได้ไหมคืนนี้? (เหตุการณ์คืนนี้ที่จะถึง)
5. คุณหาหมู่บ้านเจอไหม? (ตอนนั้น ในอดีต)
เฉลย
1. Could you see the bats when you were in the cave?
Were you able to see the bats when you were in the cave?
2. Can you tell me?
Are you able to tell me?
3. Could you help it?
Were you able to help it?
4. Can you tell the spookery tonight?
Are you able to tell the spookery tonight?
5. Could you find the village?
Were you able to find the village?
เพิ่มเติม
สำหรับการใช้ enable นั้น เราใช้ในความหมายว่า "ทำให้.........สามารถที่จะเป็นอย่างไร" หรือ "ทำให้...............เป็นอย่างไรได้" มีหลักการใช้คือ มี enable คู่กับ to โดยวางรูปแบบเป็น enable................to .....................
ตัวอย่าง
๑. ยาเม็ดนี้ช่วยทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้
This tablet enables you to feel better.
๒. กล้องส่องทางไกลทำให้คุณเห็นวิวไกลๆได้
The binoculars enable you to see the long distance view.
๓. แผนที่นี้ทำให้คุณไม่หลง
The map enables you not to get lost.
๔. รถไฟใต้ดินทำให้เราถึงที่หมายเร็วขึ้น
The metro(หรือunderground หรือsubway) enables us to get to the destination faster (หรือsooner).
The metro(หรือunderground หรือ subway) enables us to reach the destination faster (หรือsooner).
โดยทั่วไปเรามักจะใช้คำว่า Can ในภาษาไทยว่า "สามารถ" แต่อย่างเดียว เช่น You can book the ticket now.คุณสามารถจองตั๋วได้ในตอนนี้ ซึ่งที่จริงการใช้พูดมักจะนิยมความหมายลักษณะว่า ทำอะไรได้ ทำอะไรเป็นมากกว่า และการใช้ Can แต่อย่างเดียวเพื่อสื่อความหมายแสดงความสามารถ ไม่เพียงพอที่จะใช้สื่อสารในภาษาอังกฤษ เพราะโครงสร้าง กลุ่มคำ be+able+to ก็มีความหมายเช่นเดียวกัน และหลีกเลี่ยงที่จะไม่ใช้ไม่ได้ เนื่องจากผู้พูดอาจจะเลือกใช้คำลักษณะนี้ ทำนองเดียวกับการใช้ คำว่า กิน และ ทาน ที่มีความเหมือนกันในภาษาไทย
ตัวอย่าง
๑. คุณเข้าพักได้เลยค่ะ
You can check-in now(right now).
You are able to check-in now(right now).
๒. เขา(ผู้หญิง)พูดภาษากวางตุ้งได้ไหม?
Can she speak Cantonese?
Is she able to speak Cantonese?
๓. ฉัน/ผม ไปเป็นเพื่อนคุณไม่ได้
I cannot accompany(escort) you.
I am not able to accompany(escort) you.
๔. คุณทานอาหารเผ็ดเป็นไหม?
Can you eat/have spicy food?
Are you able to eat/have spicy food?
๕. คุณจ่ายเงินสดได้ไหมคะ/ครับ?
Can you pay in cash?
Are you able to pay in cash?
๖. ในประเทศเวียตนาม เขาลาคลอดกันได้๖เดือน แต่ในประเทศไทยลาได้แค่๓เดือน
In Vietnam, they can have pregnancy leave for 6 months but in Thailand they can have only 3 months.
In Vietnam, they are able to have pregnancy leave for 6 months but in Thailand they are able to do so only 3 months.
๗. คุณต่อเวลาให้ฉันสัก ๑๐นาทีได้ไหม?
Can you extend some 10 minutes for me?
Are you able to extend some 10 minutes for me?
๘. เสียดายนะ! ในคู่เอกเมื่อคืน ฝ่ายแดงไม่สามารถใช้หมัดเด็ดล้มฝ่ายน้ำเงินลงได้
Can you prolong some 10 minutes for me?
Are you able to prolong some 10 minutes for me?
It's a pity! In the main match of last night , the red one could not use his floorer to knock out the blue one.
It's a pity! In the main match of last night , the red one was not able to use his floorer to knock out the blue one.
แบบฝึกหัดที่ 1
1. คุณหาเวลาว่างมาเที่ยวหาดนางรำได้ไหม?
2. พรุ่งนี้คุณตื่นแต่เช้าไปทัวร์ตลาดน้ำได้ไหม?
3. เราติดต่อคนขับรถไม่ได้
4. เราเข้าไปในกรุของเจดีย์ไม่ได้
5. เขาขอเงินคืนไม่ได้
เฉลย
1. Can you spare (seek) time to visit Nangram beach?
Are you able to spare(seek) time to visit Nangram beach?
2. Can you wake up(get up) early to the tour to floating market tomorrow?
Can you wake up (get up) early to the floating market tour tomorrow?
Tomorrow, can you wake up (get up) early to the tour to floating market?
Tomorrow, can you wake up(get up) early to the floating market tour?
Are you able to wake up(get up) early to the tour to floating market tomorrow?
Are you able to wake up(get up) early to the floating market tour tomorrow?
Tomorrow , are you able to wake up (get up) early to the tour to floating market?
Tomorrow, are you able to wake up(get up) early to the floating market tour?
3. We cannot contact the driver. (ความหมาย เป็นปัจจุบัน)
We are not able to contact the driver. (ความหมาย เป็นปัจจุบัน)
We could not contact the driver. (ความหมายเป็นอดีต)
We were not able to contact the driver. (ความหมายเป็นอดีต)
4. We cannot enter (get into) the crypt of the chedi(stupa).
We are not able to enter(get into) the crypt of the chedi(stupa).
We could not enter(get into) the crypt of the chedi(stupa).
We were not able to enter(ge into) the crypt of the chedi(stup).
5. He(She) cannot refund.
He(She) is not able to refund.
He(She) could not refund.
He(She) was not able to refund.
แบบฝึกหัดที่ 2
1. คุณเห็นค้างคาวได้หรือเปล่าตอนที่คุณอยู่ในถ้ำ? (ตอนนั้น ในอดีต)
2. คุณบอกฉันได้หรือเปล่า? (เรื่องในปัจจุบัน)
3. คุณช่วยมันได้หรือเปล่า? (ตอนนั้น ในอดีต)
4. คุณเล่าเรื่องผีได้ไหมคืนนี้? (เหตุการณ์คืนนี้ที่จะถึง)
5. คุณหาหมู่บ้านเจอไหม? (ตอนนั้น ในอดีต)
เฉลย
1. Could you see the bats when you were in the cave?
Were you able to see the bats when you were in the cave?
2. Can you tell me?
Are you able to tell me?
3. Could you help it?
Were you able to help it?
4. Can you tell the spookery tonight?
Are you able to tell the spookery tonight?
5. Could you find the village?
Were you able to find the village?
เพิ่มเติม
สำหรับการใช้ enable นั้น เราใช้ในความหมายว่า "ทำให้.........สามารถที่จะเป็นอย่างไร" หรือ "ทำให้...............เป็นอย่างไรได้" มีหลักการใช้คือ มี enable คู่กับ to โดยวางรูปแบบเป็น enable................to .....................
ตัวอย่าง
๑. ยาเม็ดนี้ช่วยทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้
This tablet enables you to feel better.
๒. กล้องส่องทางไกลทำให้คุณเห็นวิวไกลๆได้
The binoculars enable you to see the long distance view.
๓. แผนที่นี้ทำให้คุณไม่หลง
The map enables you not to get lost.
๔. รถไฟใต้ดินทำให้เราถึงที่หมายเร็วขึ้น
The metro(หรือunderground หรือsubway) enables us to get to the destination faster (หรือsooner).
The metro(หรือunderground หรือ subway) enables us to reach the destination faster (หรือsooner).
การใช้คำว่า "last" เป็น คำกริยา
การใช้คำว่า "last" เป็น คำกริยา
โดยทั่วไปเรามักจะใช้ last ในความหมายเป็นคำคุณศัพท์(adjective)ว่า "สุดท้าย" จนลืมไปว่า คำเดียวกันนี้ เป็นคำกริยาได้ด้วย มีความว่า "กินเวลา....(เท่านั้นเท่านี้) , อยู่ได้,คงอยู่ได้ .....(ถึงเท่านั้นเท่านี้)
ตัวอย่าง
๑. ถ่าน(แบตเตอรรี่)นี้ อยู่ได้ ๑๐ชั่วโมง
๒. เที่ยวบินไปสหรัฐอเมริกากินเวลา ๒๔ช่วโมง (บินจากกรุงเทพฯแบบไม่หยุดพัก)
โดยทั่วไปเรามักจะใช้ last ในความหมายเป็นคำคุณศัพท์(adjective)ว่า "สุดท้าย" จนลืมไปว่า คำเดียวกันนี้ เป็นคำกริยาได้ด้วย มีความว่า "กินเวลา....(เท่านั้นเท่านี้) , อยู่ได้,คงอยู่ได้ .....(ถึงเท่านั้นเท่านี้)
ตัวอย่าง
๑. ถ่าน(แบตเตอรรี่)นี้ อยู่ได้ ๑๐ชั่วโมง
๒. เที่ยวบินไปสหรัฐอเมริกากินเวลา ๒๔ช่วโมง (บินจากกรุงเทพฯแบบไม่หยุดพัก)
(ปัจจุบันไม่มีแล้ว เพราะ ขาดทุน และแพง)
๓. การแสดงนี้กินเวลานานแค่ไหน?
๔. การตั้งท้องของช้างกินเวลาประมาณ๒๒เดือน
๕. อยุธยาอยู่เป็นเมืองหลวงได้๔๑๗ปี
๖. การแสดงสุดท้ายกินเวลา๑๐นาที
๗. อันสุดท้ายอยู่ได้๓วัน
๘. ยานี้อยู่ได้๒ปี (จึงหมดอายุ)
๙. มัน(สิ่งของ)อยู่ได้นานไหม?
๑๐.มันอยู่ได้ไม่นานหรือ?
๑๑.อันนี้อยู่ได้นานกว่า
๑๒.ระยะฟักไข่ของจระเข้กินเวลาประมาณ ๗๐วัน
๓. การแสดงนี้กินเวลานานแค่ไหน?
๔. การตั้งท้องของช้างกินเวลาประมาณ๒๒เดือน
๕. อยุธยาอยู่เป็นเมืองหลวงได้๔๑๗ปี
๖. การแสดงสุดท้ายกินเวลา๑๐นาที
๗. อันสุดท้ายอยู่ได้๓วัน
๘. ยานี้อยู่ได้๒ปี (จึงหมดอายุ)
๙. มัน(สิ่งของ)อยู่ได้นานไหม?
๑๐.มันอยู่ได้ไม่นานหรือ?
๑๑.อันนี้อยู่ได้นานกว่า
๑๒.ระยะฟักไข่ของจระเข้กินเวลาประมาณ ๗๐วัน
๑๓.ชีวิตของหิ่งห้อยอยู่ได้ประมาณ๒สัปดาห์ หลังจากระยะฟักตัว๙๐วันแล้ว
เฉลย
1. This battery lasts 10 hours.
2. The flight to USA lasts 24 hours/ A flight to USA lasts 24 hours. (Non-stop from Bangkok)
3. How long does the(this) show(performance) last?
4. An elephant pregnancy(gestation) lasts about 22 months.
5. Ayutthaya lasted as the capital for 417 years.
6. The last show(performande) lasts 10 minutes.
7. The last one lasts/lasts for 3 days.
8. This medicine lasts/lasts for 2 years.
9. Does it last long?
10. Doesn't it last long?
11. This one last longer.
12. A crocodile hatching period lasts about 70 days.
เฉลย
1. This battery lasts 10 hours.
2. The flight to USA lasts 24 hours/ A flight to USA lasts 24 hours. (Non-stop from Bangkok)
3. How long does the(this) show(performance) last?
4. An elephant pregnancy(gestation) lasts about 22 months.
5. Ayutthaya lasted as the capital for 417 years.
6. The last show(performande) lasts 10 minutes.
7. The last one lasts/lasts for 3 days.
8. This medicine lasts/lasts for 2 years.
9. Does it last long?
10. Doesn't it last long?
11. This one last longer.
12. A crocodile hatching period lasts about 70 days.
13. Life of a fire-fly lasts about 2 weeks after the 90-day hatching period.
แบบฝึกหัดที่ 1
1. สีแบบนี้อยู่ได้ไม่เกิน2ปี
2. มังคุดพวกนี้อยู่ได้นานกว่า1สัปดาห์
3. ลูกนี้อยู่ได้เกิน3วันมานิดหน่อย
4. ฤดูฝนในเมืองไทยกินเวลาเท่าไร?
5. การอบรมกินเวลานานแค่ไหน?
เฉลย
1. The painting like this lasts (can last) not longer than 2 years.
The painting like this lasts (can last) not over 2 years.
The painting like this lasts (can last) not more than 2 years.
2. These mangosteens last (can last) longer than one week.
These mangosteens last (can last) over one week.
These mangosteens last (can last) more than one week.
3. This one lasts (can last) slightly longer than (more than หรือ over) 3 days.
This one lasts (can last) a little bit longer than (more than หรือ over) 3 days.
4. How long does the rainy season in Thailand last?
5. How long does the training last? (เรื่องปัจจุบัน หรือข้อเท็จจริง)
How long did the trainging last? (เรื่องอดีต)
แบบฝึกหัดที่ 2
1. สงครามกินเวลาประมาณ๑๔ปี
(สงครามระหว่างสยามและอันนัม หรือไทย-ญวนในสมัยรัชกาลที่๓)
2. การเคลื่อนย้ายพระพุทธรูปกินเวลาประมาณ๕ชั่วโมง
(หมายถึงการเคลื่อนย้ายพระพุทธชินราชที่วัดเบญฯจากคลองเปรมประชากรหน้าวัดเข้าสู่อุโบสถ)
3. การเคลื่อนย้ายพระพุทธรูปจะกินเวลาประมาณ๕ชั่วโมง (เรื่องสมมติ)
4. ธูปนี้อยู่ได้๑๕นาที
5. อยุธยาอยู่เป็นเมืองหลวง๔๑๗ปี
6. พระพุทธเจ้าพยากรณ์ว่าศาสนาพุทธในยุคของพระองค์จะอยู่ได้ ๕,๐๐๐ปี
7. ชีวิตแพนด้าอยู่ได้ประมาณ ๒๕-๓๐ ปี
8. จิตรกรรมฝาผนังของไทยอยู่ไม่นานเท่าจิตรกรรมฝาผนังของยุโรป เพราะใช้วิทยาการต่างกัน
เฉลย
1. The war lasted about 14 years.
2. The movement of the Buddha image lasted about 5 hours.
3. The movement of the Buddha image will last about 5 hours.
4. This incense stick(joss stick) can last for 15 minutes.
5. Ayutthaya lasted as the capital for 417 years.
6. The Buddha predicted that Buddhism in his era could last for 5,000 years.
7. A panda's life lasts about 25-30 years.
8. The Thai wall painting (mural painting) doesn't last as long as the European one because it is used (made)with different technology.
The Thai wall painting(mural painting) doesn't last as long as the European one because they use different technology.
แบบฝึกหัดที่ 1
1. สีแบบนี้อยู่ได้ไม่เกิน2ปี
2. มังคุดพวกนี้อยู่ได้นานกว่า1สัปดาห์
3. ลูกนี้อยู่ได้เกิน3วันมานิดหน่อย
4. ฤดูฝนในเมืองไทยกินเวลาเท่าไร?
5. การอบรมกินเวลานานแค่ไหน?
เฉลย
1. The painting like this lasts (can last) not longer than 2 years.
The painting like this lasts (can last) not over 2 years.
The painting like this lasts (can last) not more than 2 years.
2. These mangosteens last (can last) longer than one week.
These mangosteens last (can last) over one week.
These mangosteens last (can last) more than one week.
3. This one lasts (can last) slightly longer than (more than หรือ over) 3 days.
This one lasts (can last) a little bit longer than (more than หรือ over) 3 days.
4. How long does the rainy season in Thailand last?
5. How long does the training last? (เรื่องปัจจุบัน หรือข้อเท็จจริง)
How long did the trainging last? (เรื่องอดีต)
แบบฝึกหัดที่ 2
1. สงครามกินเวลาประมาณ๑๔ปี
(สงครามระหว่างสยามและอันนัม หรือไทย-ญวนในสมัยรัชกาลที่๓)
2. การเคลื่อนย้ายพระพุทธรูปกินเวลาประมาณ๕ชั่วโมง
(หมายถึงการเคลื่อนย้ายพระพุทธชินราชที่วัดเบญฯจากคลองเปรมประชากรหน้าวัดเข้าสู่อุโบสถ)
3. การเคลื่อนย้ายพระพุทธรูปจะกินเวลาประมาณ๕ชั่วโมง (เรื่องสมมติ)
4. ธูปนี้อยู่ได้๑๕นาที
5. อยุธยาอยู่เป็นเมืองหลวง๔๑๗ปี
6. พระพุทธเจ้าพยากรณ์ว่าศาสนาพุทธในยุคของพระองค์จะอยู่ได้ ๕,๐๐๐ปี
7. ชีวิตแพนด้าอยู่ได้ประมาณ ๒๕-๓๐ ปี
8. จิตรกรรมฝาผนังของไทยอยู่ไม่นานเท่าจิตรกรรมฝาผนังของยุโรป เพราะใช้วิทยาการต่างกัน
เฉลย
1. The war lasted about 14 years.
2. The movement of the Buddha image lasted about 5 hours.
3. The movement of the Buddha image will last about 5 hours.
4. This incense stick(joss stick) can last for 15 minutes.
5. Ayutthaya lasted as the capital for 417 years.
6. The Buddha predicted that Buddhism in his era could last for 5,000 years.
7. A panda's life lasts about 25-30 years.
8. The Thai wall painting (mural painting) doesn't last as long as the European one because it is used (made)with different technology.
The Thai wall painting(mural painting) doesn't last as long as the European one because they use different technology.
การใช้ "take" ในความหมายว่า "ใช้เวลา"
การใช้ "take" ในความหมายว่า "ใช้เวลา"
คำว่า "take" มีความหมายมากมายในภาษาอังกฤษ แต่เฉพาะในบทนี้ จะกล่าวเฉพาะ take ที่มีความหมายว่า "ใช้เวลา....." เท่านั้น
หมายเหตุ
1. เนื่องจาก take มีความหมายว่า "ใช้เวลา...." อยู่แล้ว ดังนั้น เมื่อกล่าวว่า "ใช้เวลา5นาที" จะไม่นิยมพูดว่า "It takes time 5 minutes." แม้จะไม่ผิดก็ตาม แต่ให้พูดว่า " It takes 5 minutes."
เพราะหลักการใช้ภาษาที่ดี ไม่ควรใช้คำยืดเยื้อหรือฟุ่มเฟือย แต่ในกรณีภาษาพูดมักจะไม่เคร่งครัดเรื่องนี้ เนื่องจากการพูดมีเวลากระชั้นชิดที่จะต้องพูดออกมา หากผู้พูดไม่ชำนาญในการปรุงแต่งภาษาให้สละสลวยเนื่องจากเวลามีจำกัด เรื่องนี้ย่อมไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพียงแต่อาจจะถูกคนที่ใช้ภาษาละเอียดหรือเคร่งครัดต่อว่าบ้าง เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับมุงมองของแต่ละฝ่าย
2.บางครั้งจำเป็นต้องพูดเต็มรูปแบบเพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจชัดเจนว่า "ใช้เวลา"
แบบฝึกหัดที่ ๑
เกี่ยวกับการเดินทาง
๑. ใช้เวลขับรถประมาณ ๔-๕ชั่วโมง ไปตราด
๒. ใช้เวลาขับรถประมาณ ๔-๕ชั่วโมง ไปถึงตราด
๓. ใช้เวลาประมาณ ๔-๕ ชั่วโมงไปตราด
๔. ใช้เวลาประมาณ ๔-๕ ชั่วโมงไปถึงตราด
เฉลย
1. It takes 4-5 hors to drive to Trat.
2. It takes 4-5 hours to drive to reach Trat . / It takes 4-5 hours to get to Trat.
3. It takes 4-5 hours to Trat.
4. It takes 4-5 hours to reach Trat./ It takes 4-5 hours to get to Trat.
แบบฝึกหัดที่ ๒
เกี่ยวกับพระปฐมเจดีย์ นครปฐม
๑. เจดีย์นี้ใช้เวลาสร้าง๑๗ปี
๒. เจดีย์นี้ใช้เวลาสร้าง๑๗ปีจึงเสร็จ(สมบูรณ์)
๓. ใช้เวลาสร้างเจดีย์องค์นี้๑๗ปี
๔. ใช้เวลาสร้างเจดีย์องค์นี้๑๗ปีจึงเสร็จ(สมบูรณ์)
๕. การก่อสร้างเจดีย์องค์นี้ใช้เวลา๑๗ปี
๖. การก่อสร้างเจดีย์องค์นี้ใช้เวลา๑๗ปีจึงเสร็จ(สมบูรณ์)
เฉลย
1. This chedi(stupa/pagoda) took 17 years to build(construct).
2. This chedi(stupa/pagoda) took 17 years to build (construct) to complete(completion).
3. It took 17 years to build(construct) this chedi(stupa/pagoda).
4. It took 17 years to build(construct) this chedi(stupa/pagoda) to complete.
5. The construction of this chedi(stupa/pagoda) took 17 years. This chedi(stupa/pagoda) construction took 17 years.
6. The construction of this chedi(stupa/pagoda) took 17 years to complete. This chedi(stupa/pagoda) construction took 17 years to complete.
แบบฝึกหัดที่ ๓
๑. การก่อสร้างพระศรีรัตนเจดีย์(วัดพระแก้ว)ใช้เวลา๒๗ปีจึงเสร็จสมบูรณ์
๒. ทัวร์เที่ยววัดใช้เวลาประมาณ๔ชั่วโมง
๓. งานแกะสลักชิ้นนี้ใช้เวลา ๓ เดือน
๔. ทัวร์นี้ใช้เวลทั้งวัน
๕. ใช้เวลาอีกประมาณ๑๕นาทีที่จะไปถึงวัดต่อไป
๖. ใช้เวลาตั้ง๒๐ปีกว่าจะรู้ว่าพระพุทธรูปองค์นี้ทำด้วยทองคำ
๗. ใช้เวลาตั้งประมาณ๕ชั่วโมงในการเคลื่อนพระประธานเข้าไปในโบสถ์
(การเคลื่อนย้ายพระประธานไปยังอุโบสถวัดเบญจมบพิตร)
๘. ใช้เวลาสร้างพระพุทธรูปองค์นี้กว่า๓ปี (เรื่องประวัติศาสตร์)
เฉลย
1. The construction of Phrasrirattana Chedi took 27 years to complete.
2. The temple tour takes about 4 hours.
3. This wood carving work took 3 months./This wood carving work takes 3 months.
4. This tour takes the whole day(all day long).
This tour took the whole day(all day long).
5. It takes 15 more minutes to reach (to get to) the next temple (หรือ the following temple).
6. It took 20 years to know that this Buddha image is made of gold.
7. It took about 5 hours to move the presiding Buddha image (the principal Buddha image) into the main chapel.
8. It took over (more than) 3 years to make (build) this Buddha image.
คำว่า "take" มีความหมายมากมายในภาษาอังกฤษ แต่เฉพาะในบทนี้ จะกล่าวเฉพาะ take ที่มีความหมายว่า "ใช้เวลา....." เท่านั้น
หมายเหตุ
1. เนื่องจาก take มีความหมายว่า "ใช้เวลา...." อยู่แล้ว ดังนั้น เมื่อกล่าวว่า "ใช้เวลา5นาที" จะไม่นิยมพูดว่า "It takes time 5 minutes." แม้จะไม่ผิดก็ตาม แต่ให้พูดว่า " It takes 5 minutes."
เพราะหลักการใช้ภาษาที่ดี ไม่ควรใช้คำยืดเยื้อหรือฟุ่มเฟือย แต่ในกรณีภาษาพูดมักจะไม่เคร่งครัดเรื่องนี้ เนื่องจากการพูดมีเวลากระชั้นชิดที่จะต้องพูดออกมา หากผู้พูดไม่ชำนาญในการปรุงแต่งภาษาให้สละสลวยเนื่องจากเวลามีจำกัด เรื่องนี้ย่อมไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพียงแต่อาจจะถูกคนที่ใช้ภาษาละเอียดหรือเคร่งครัดต่อว่าบ้าง เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับมุงมองของแต่ละฝ่าย
2.บางครั้งจำเป็นต้องพูดเต็มรูปแบบเพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจชัดเจนว่า "ใช้เวลา"
ตัวอย่างเช่น
A: Is the destination far? จุดหมายปลายทางไกลไหม?
B: It takes time. ใช้เวลาครับ (แสดงว่าผู้ตอบบอกเป็นนัยๆว่าต้องใช้เวลา)
ตัวอย่าง
๑. การเดินทางไปเชียงใหม่ใช้เวลาประมาณ๗ชั่วโมง (กล่างถึงขอเท็จจริง ความเป็นปกติ)
๒ การเดินทางไปเชียงใหม่ใช้เวลา๑๒ชั่วโมง(จากเหตุการณ์ที่ประสบขึ้นจริงที่ผ่านมา ทั้งนี้เกิดจากปัจจัยประกอบอื่นๆ เช่นการจราจรติดขัด ฝนตกระหว่างทาง รถเสีย ฯลฯ)
๓. การเดินทางไปเชียงใหม่จะใช้เวลาประมาณ๗ชั่วโมง (ผู้พูดคาดการณ์ไว้)
หมายเหตุ trip ใช้ในความหมายว่า การเดินทาง journey ใช้ในความหมายเน้นว่า การเดินทางที่ไกลหรือยาวนาน
๔. การก่อสร้างภูเขาทอง กรุงเทพฯ ใช้เวลาประมาณ ๕๐ปีจึงเสร็จสมบูรณ์
๕. ใช้เวลาไม่นานหรือ? (มันไม่ใช้เวลานานหรอกหรือ?)
๖. คุณใช้เวลาอยู่ที่นี่ได้นานเท่าที่คุณต้องการ
๗. คุณใช้เวลาอยู่ที่นั่นนานเท่าไร?
๘. คุณจะใช้เวลาอยู่ที่นั่นนานเท่าไร?
๙. ใช้เวลาปลูกทุเรียนประมาณ ๗ ปี / ใช้เวลาประมาณ ๗ปีเพื่อปลูกทุเรียน(ข้อเท็จจริง)
A: Is the destination far? จุดหมายปลายทางไกลไหม?
B: It takes time. ใช้เวลาครับ (แสดงว่าผู้ตอบบอกเป็นนัยๆว่าต้องใช้เวลา)
ตัวอย่าง
๑. การเดินทางไปเชียงใหม่ใช้เวลาประมาณ๗ชั่วโมง (กล่างถึงขอเท็จจริง ความเป็นปกติ)
๒ การเดินทางไปเชียงใหม่ใช้เวลา๑๒ชั่วโมง(จากเหตุการณ์ที่ประสบขึ้นจริงที่ผ่านมา ทั้งนี้เกิดจากปัจจัยประกอบอื่นๆ เช่นการจราจรติดขัด ฝนตกระหว่างทาง รถเสีย ฯลฯ)
๓. การเดินทางไปเชียงใหม่จะใช้เวลาประมาณ๗ชั่วโมง (ผู้พูดคาดการณ์ไว้)
หมายเหตุ trip ใช้ในความหมายว่า การเดินทาง journey ใช้ในความหมายเน้นว่า การเดินทางที่ไกลหรือยาวนาน
๔. การก่อสร้างภูเขาทอง กรุงเทพฯ ใช้เวลาประมาณ ๕๐ปีจึงเสร็จสมบูรณ์
๕. ใช้เวลาไม่นานหรือ? (มันไม่ใช้เวลานานหรอกหรือ?)
๖. คุณใช้เวลาอยู่ที่นี่ได้นานเท่าที่คุณต้องการ
๗. คุณใช้เวลาอยู่ที่นั่นนานเท่าไร?
๘. คุณจะใช้เวลาอยู่ที่นั่นนานเท่าไร?
๙. ใช้เวลาปลูกทุเรียนประมาณ ๗ ปี / ใช้เวลาประมาณ ๗ปีเพื่อปลูกทุเรียน(ข้อเท็จจริง)
๑๐.การปลูกข้าวใช้เวลาประมาณ ๑๒๐ วัน (จริงๆ แล้วแต่พันธ์ุข้าว)
๑๑.เที่ยวบินจากกรุงเทพฯไปเชียงรายใช้เวลาประมาณ๑ชั่วโมง๑๕นาที (โดยปกติ)
๑๒.สิทธัตถะใช้เวลา๖ปีจึงตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าสมณโคดม
เฉลย
1. A journey (trip) to Chiengmai takes about (approximately) 7 hours.
2. The journey (trip) to Chiengmai took 12 hours.
3. The journey (trip) to Chiengmai will take about 7 hours
4. The construction of the Golden Mount ,Bangkok took about 50 years to complete.
5. Doesn't it take a long time?
6. You can take time here as long as you want./ You can take time here as long as you wish.
7. How long did you take time there?
8. How long will you take time there? หรือ How long are you going to take time there? หรือ How long are you to take time there?
9. It takes about 7 years to grow Durian. หรือ It takes about 7 years to grow Durian to bear fruit.
เฉลย
1. A journey (trip) to Chiengmai takes about (approximately) 7 hours.
2. The journey (trip) to Chiengmai took 12 hours.
3. The journey (trip) to Chiengmai will take about 7 hours
4. The construction of the Golden Mount ,Bangkok took about 50 years to complete.
5. Doesn't it take a long time?
6. You can take time here as long as you want./ You can take time here as long as you wish.
7. How long did you take time there?
8. How long will you take time there? หรือ How long are you going to take time there? หรือ How long are you to take time there?
9. It takes about 7 years to grow Durian. หรือ It takes about 7 years to grow Durian to bear fruit.
10.Rice growing takes about 120 days.
Rice cultivation takes about 120 days.
11.The flight from Bangkok to Chiangrai takes about one hour fifteen minutes.
12.Sithattha took 6 years to get enlightenment as a Buddha, Kotama Buddha.
แบบฝึกหัดที่ ๑
เกี่ยวกับการเดินทาง
๑. ใช้เวลขับรถประมาณ ๔-๕ชั่วโมง ไปตราด
๒. ใช้เวลาขับรถประมาณ ๔-๕ชั่วโมง ไปถึงตราด
๓. ใช้เวลาประมาณ ๔-๕ ชั่วโมงไปตราด
๔. ใช้เวลาประมาณ ๔-๕ ชั่วโมงไปถึงตราด
เฉลย
1. It takes 4-5 hors to drive to Trat.
2. It takes 4-5 hours to drive to reach Trat . / It takes 4-5 hours to get to Trat.
3. It takes 4-5 hours to Trat.
4. It takes 4-5 hours to reach Trat./ It takes 4-5 hours to get to Trat.
แบบฝึกหัดที่ ๒
เกี่ยวกับพระปฐมเจดีย์ นครปฐม
๑. เจดีย์นี้ใช้เวลาสร้าง๑๗ปี
๒. เจดีย์นี้ใช้เวลาสร้าง๑๗ปีจึงเสร็จ(สมบูรณ์)
๓. ใช้เวลาสร้างเจดีย์องค์นี้๑๗ปี
๔. ใช้เวลาสร้างเจดีย์องค์นี้๑๗ปีจึงเสร็จ(สมบูรณ์)
๕. การก่อสร้างเจดีย์องค์นี้ใช้เวลา๑๗ปี
๖. การก่อสร้างเจดีย์องค์นี้ใช้เวลา๑๗ปีจึงเสร็จ(สมบูรณ์)
เฉลย
1. This chedi(stupa/pagoda) took 17 years to build(construct).
2. This chedi(stupa/pagoda) took 17 years to build (construct) to complete(completion).
3. It took 17 years to build(construct) this chedi(stupa/pagoda).
4. It took 17 years to build(construct) this chedi(stupa/pagoda) to complete.
5. The construction of this chedi(stupa/pagoda) took 17 years. This chedi(stupa/pagoda) construction took 17 years.
6. The construction of this chedi(stupa/pagoda) took 17 years to complete. This chedi(stupa/pagoda) construction took 17 years to complete.
แบบฝึกหัดที่ ๓
๑. การก่อสร้างพระศรีรัตนเจดีย์(วัดพระแก้ว)ใช้เวลา๒๗ปีจึงเสร็จสมบูรณ์
๒. ทัวร์เที่ยววัดใช้เวลาประมาณ๔ชั่วโมง
๓. งานแกะสลักชิ้นนี้ใช้เวลา ๓ เดือน
๔. ทัวร์นี้ใช้เวลทั้งวัน
๕. ใช้เวลาอีกประมาณ๑๕นาทีที่จะไปถึงวัดต่อไป
๖. ใช้เวลาตั้ง๒๐ปีกว่าจะรู้ว่าพระพุทธรูปองค์นี้ทำด้วยทองคำ
๗. ใช้เวลาตั้งประมาณ๕ชั่วโมงในการเคลื่อนพระประธานเข้าไปในโบสถ์
(การเคลื่อนย้ายพระประธานไปยังอุโบสถวัดเบญจมบพิตร)
๘. ใช้เวลาสร้างพระพุทธรูปองค์นี้กว่า๓ปี (เรื่องประวัติศาสตร์)
เฉลย
1. The construction of Phrasrirattana Chedi took 27 years to complete.
2. The temple tour takes about 4 hours.
3. This wood carving work took 3 months./This wood carving work takes 3 months.
4. This tour takes the whole day(all day long).
This tour took the whole day(all day long).
5. It takes 15 more minutes to reach (to get to) the next temple (หรือ the following temple).
6. It took 20 years to know that this Buddha image is made of gold.
7. It took about 5 hours to move the presiding Buddha image (the principal Buddha image) into the main chapel.
8. It took over (more than) 3 years to make (build) this Buddha image.
Latest updated : 10th Aug 2020
Friday, 24 May 2013
English for Guide:The Marble Temple,narration บรรยายนำชมวัดเบญจมบพิตร
Wat Benchamabophit,The Marble Temple,Bangkok
ตัวอย่างการบรรยาย
บรรยายประวัติย่อๆ
"........Ladies and gentlemen , welcome to one of the most famous temples in Bangkok.
ขอต้อนรับท่านสุภาพสตรีและบุรุษทั้งหลายสู่วัดที่มีชื่อเสียงที่สุดวัดหนึ่งในกรุงเทพฯค่ะ/ครับ
It is the Temple of Marble or the Marble Temple. วัดแห่งหินอ่อนหรือวัดหินอ่อนนั่นเอง
It is officially named Wat Benchamabophit Dusitwanaram.
เรียกชื่อเป็นทางการว่าวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
This means the temple,located in a forestry area in Dusit Palace precinct, is in honour of King Ram V or King Chulalongkorn.
อันหมายถึงว่าวัดนี้ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าที่อยู่ในขอบเขตแห่งพระราชวังดุสิต เป็นเกียรติแก่รัชกาลที่๕หรือพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
(precinct ขอบเขต , in honour of/ in honor of เป็นเกียรติแก่..................... )
During that time ,in 1900s, the surroundings were forestry. ในช่วงเวลานั้นคือช่วงทศวรรษแห่ง ค.ศ.1900 บริเวณรอบๆยังเป็นป่าอยู่
This temple is regarded as the temple of Dusit Palace. วัดนี้ถือเป็นวัดประจำพระราชวังดุสิต.........."
"......This temple is called in tourism as the Marble Temple because it is beautifully decorated with the best marble in the world from Carrara, Italy.
วัดนี้เรียกกันในเชิงการท่องเที่ยวว่าวัดหินอ่อน เพราะว่าประดับประดาอย่างงดงามด้วยหินอ่อนที่ดีที่สุดในโลกจากเมืองคาราร่า ประเทศอิตาลี
It is probably misunderstood as the marble temple that is totally(หรือ entirely) made of marble.
บางทีอาจเป็นที่เข้าใจผิดกันว่าเป็นวัดที่ทำด้วยหินอ่อนทั้งหลัง
Actually,it is made of bricks and covered with marble that is about 3 centimetres thick.
ที่จริงแล้วทำด้วยอิฐปิดด้วยหินอ่อนหนาประมาณ๓เซนติเมตร
The temple is about 110 years old but still looks new because of the continual restoration and renovation.
วัดนี้อายุประมาณ๑๑๐ปีแล้ว แต่ยังดูใหม่ เพราะการบูรณะและปฎิสังขรณ์กันอย่างต่อเนื่อง........."
(continual หมายถึง ต่อเนื่องโดยมีการเว้นระยะ ส่วน continuousหมายถึงต่อเนื่องอย่างไม่หยุดหรือเว้นระยะ)
"...........The temple was established in the reign of King Ram V or King Chulalongkorn in 1899 or 112 years ago, on the site of an old temple available before his reign.
วัดนี้สถาปนาขึ้นในรัชกาลที่๕ หรือพระจุลจอมเกล้าฯ ในปีค.ศ.๑๘๙๙ หรือ ๑๑๒ปีมาแล้ว บนที่ตั้งของวัดเก่าที่มีมาอยู่ก่อนรัชสมัยพระองค์................."
หมายเหตุ : ก่อนหน้านั้นมีวัดอยู่ก่อนชื่อว่าวัดเบญจบพิตร แปลว่าวัดแห่งเจ้านาย๕พระองค์ แล้วรัชกาลที่๕ได้สถาปนาวัดขึ้นมาใหม่เป็นวัดเบญจมบพิตร ทั้งนี้เพื่อเป็นการผาติกรรม(กระทำการชดเชย)ให้แก่วัดร้างที่ถูกรื้อทิ้งเนื่องจากต้องใช้เป็นส่วนหนึ่งในอาณาบริเวณของพระราชวังดุสิต ตามหลักฐานที่พอจะมี ระบุว่า ต้องรื้อวัดร้างอย่างน้อย๒แห่ง คือวัดดุสิตและวัดไม่ทราบชื่ออีกหนึ่งแห่ง
บรรยายเกี่ยวกับอุโบสถ
".......The principal chapel or ubosoth was firstly built in a temporary style that was made of golden teak wood with thatched roof.
อาคารหลักหรืออุโบสถสร้างครั้งแรกแบบชั่วคราวด้วยไม้สักทองหลังคามุงจาก.
(thatched roof หลังคามุงจาก)
The permanent one as seen nowadays was built in 1901 but it took slightly longer than 10 years to complete.
อาคารถาวรอย่างที่เห็นในทุกวันนี้ สร้างในปีค.ศ.๑๙๐๑ แต่ใช้เวลา๑๐กว่าปีถึงเสร็จสมบูรณ์
That means it was completed after the demise of King Rama V.
นั่นหมายถึงสร้างเสร็จหลังการสวรรคตของรัชกาลที่๕..........."
The front gable-end of the main chapel หน้าบันด้านหน้าของอุโบสถ
".............The front gable-end of the main chapel is like that of other royal temples in that it shows the figure of Vishnu,the Hindu god mounted on Garuda,the mythical bird หน้าบันด้านหน้าของอุโบสถก็เหมือนกับวัดหลวงอื่นๆตรงที่เป็นรูปพระนารายณ์ทรงครุฑยุดนาค................"
Who designed it ?ใครออกแบบวัดเบญจ?
".........This temple is mainly designed by the two persons--Prince Narit, the king's half-brother and Mario Tamagno, an Italian architect วัดนี้โดยหลักๆแล้วออกแบบโดยบุคคล๒ท่านคือ กรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ พระอนุชาต่างพระมารดา และสถาปนิกชาวอิตาลี ชื่อมาริโอ ตามาโย............."
หน้าต่างพระอุโบสถ The window of the main chapel
"............The upper part of the ubosoth windows is also beautifully decorated with the stained-glass made in Florence , Italy but designed by Thai ด้านบนของหน้าต่างก็ประดับอย่างสวยงามด้วยกระจกสีทำที่เมืองฟลอเรซ์ ประเทศอิตาลี แต่ว่าลวดลายออกแบบโดยคนไทย............"
บรรยายด้านในอุโบสถ
"..........Inside the ubosoth, there is the presiding Buddha image. ภายในอุโบสถมีพระประธานอยู่ It is a gilt alloy of brass , bronze and silver image.ทำด้วยโลหะผสมจาก ทองเหลือง สัมริด และเงิน ปิดทอง
This Buddha image is important in that (1) Its base contains the crematory ashes of King Rama V (2) It is an imitative one of Phra Phutthachinnarat--the Buddha image in Phitsanulok that is one of the most beautiful Buddha images in Thai history.
พระพุทธรูปองค์นี้สำคัญตรงที่ว่า (๑) ฐานของพระเป็นที่เก็บพระสรีรางคารของรัชกาลที่๕ (๒) เป็นพระพุทธรูปเลียนแบบคล้ายกับพระพุทธชินราชที่พิษณุโลก ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่สวยงามที่สุดองค์หนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย
The gilding work of the presiding Buddha image was originally done in 1909 by the Japanese goldsmith master from Tokyo named Tsura Hara or Sensei Tsuru Hara
งานปิดทองพระพุทธรูปประธานนั้นแต่เดิมทำโดยครูช่างทองชาวญี่ปุ่นจากโตเกียว ชื่อ ทซุรุ ฮารา หรือครูทซุรุ ฮารา.
Then it was regilt in the current king's reign in 1982 by the Department of Fine Arts. แล้วต่อมาก็ปิดทองเสียใหม่ในรัชกาลปัจจุบัน ในปี ค.ศ.๑๙๘๒ โดยกรมศิลปากร.................."
When and where was the presiding Buddha image made? พระประธานทำที่ไหน ทำเมื่อไร?
"...............This presiding Buddha image was cast in Phitsanulok in October 1901 by 240 workers and it was transferred to Bangkok by raft along the Chaaophraya River for 4 days and it was kept in the foundry of Bangkok first. พระประธานองค์นี้หล่อที่พิษณุโลก ในเดือนตุลาคม ค.ศ.๑๙๐๑ ด้วยแรงงาน๒๔๐คน แล้วก็อัญเชิญมากรุงเทพฯ ด้วยแพมาทางแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นเวลา๔วัน แล้วก็มาเก็บไว้ที่โรงหล่อกรุงเทพฯก่อน
On December 13th 1901 ,it was transferred to this temple along the canals--Samsen and Premprachakorn.วันที่ 13 ตุลาคม ค.ศ. ๑๙๐๑ ก็อัญเชิญมาไว้ที่วัดนี้ โดยมาทางคลองสามเสนและคลองเปรมประชากร
From the canal over there (Khlong Premprachakorn), it took 5 and a half hours by using sledge to transfer it into the inner side of the ubosoth.
จากคลองทางโน้น(คลองเปรมประชากร) ใช้เวลา๕ชั่วโมงครึ่งในการอัญเชิญพระพุทธรูปมาสู่ส่วนในของโบสถ์โดยอาศัยตะเฆ่(ล้อเลื่อน)
บรรยายเรื่องศาลา๒หลังที่อยู่หน้าพระอุโบสถ
(ด้านหน้าพระอุโบสถ มีศาลา๒หลัง ซึ่งรูปทรงและขนาดเท่ากัน เมื่อยืนหันหน้าเข้าหาอุโบสถ จะพบศาลาที่ใช้เป็นที่จำหน่ายค่าเข้าชมแก่นักท่องเที่ยวอยู่ทางด้านขวามือของเรา ศาลานี้ชื่อ ศาลาใย-ระเบียบ ส่วนศาลาที่อยู่ทางด้านซ้ายของเรา ใช้เป็นที่จำหน่ายเครื่องดื่มและของกินอื่นๆ ศาลานี้ชื่อ ศาลาหม่อมเฉื่อย)
ศาลาหม่อมเฉื่อย(หน้าบันด้านที่มีรูปพระพายทรงม้า)
หน้าบันศาลาใยระเบียบ(ด้านที่มีรูปคนทอผ้าเป็นใยๆ)
หน้าบันศาลาใยระเบียบ(ด้านที่มีรูปพวงมาลัยที่ร้อยเป็นระเบียบ)
การอธิบายเกี่ยวกับศาลาหม่อมเฉื่อย
"ศาลานี้ชื่อว่าศาลาหม่อมเฉื่อย สร้างในปีพ.ศ.๒๔๔๗(ค.ศ.1904) การก่อสร้าง รับเป็นเจ้าภาพ(สนับสนุนทางการเงิน)โดยกรมพระยาดำรงราชนุภาพ เพื่ออุทิศให้หม่อมเฉื่อย หม่อมในพระองค์(กรมพระยาดำรงฯ) This pavilion is named Momchuei Pavilion.It was built in 1904. Its construction was subsidized by Prince Damrong to dedicate to Momchuei ,his own wife. ปัจจุบันใช้เป็นร้านจำหน่ายเครื่องดื่มและของกินอื่นๆ Nowadays it is used as a refreshment shop." A gable shows the figure of Vayu ,the god of wind mounted on a horse. หน้าบันด้านหนึ่งแสดงรูปพระพายทรงม้า"
หมายเหตุ ที่หน้าบันเป็นรูปพระพายทรงม้าก็เพื่อให้สอดคล้องกับความหมายว่า"เฉื่อย" เพราะ "เฉื่อย" มีความหมายถึงพระพาย ดังคำพูดว่า "ลมพัดเฉื่อยๆ"
การอธิบายเกี่ยวกับศาลาใยระเบียบ
"ศาลานี้เรียกว่า ศาลาใย-ระเบียบ สร้างในปีเดียวกับศาลาหม่อมเฉื่อย การก่อสร้างใช้เวลา๑ปี This pavilion is called Yai-Rabieb Pavilion . It was built in the same year of Momchoei pavilion .The construction lasted 1 year. การก่อสร้างรับเป็นเจ้าภาพโดยฆราวาสผู้หญิง(อุบาสิกา)ชื่อระเบียบ เพื่ออุทิศให้ นางใยผู้เป็นแม่ และนางระเบียบคือตนเอง The construction was subsidized by a laywoman named Rabieb to dedicate to Yai her monther and Rabieb hereself ปัจจุบันใช้เป็นที่จำหน่ายตั๋วค่าเข้าชม สำหรับชาวต่างชาติ Nowadays , it is used as an admission ticket office for foreigners."
พระที่นั่งทรงธรรม พระที่นั่งทรงผนวช และศาลาสี่สมเด็จ
(เมื่อยืนหันหน้าเข้าหาพระอุโบสถ จะสังเกตุเห็นว่าทางด้านซ้ายมีคลองกั้นวัดเป็น๒ส่วนคือพุทธาวาส คือบริเวณที่เราเข้ามายืน และสังฆาวาส คือบริเวณอีกฝั่งหนึ่งของคลอง และในบริเวณสังฆาวาสจะมีอาคารที่เห็นเด่นอยู่ ๓ หลัง หลังหนึ่งเป็นศาลา อีก๒หลังรูปทรงคล้ายกันคือ เป็นอาคาร๒ชั้น เมื่อเราลองหันหน้าเข้าหาคลองแทน(ก็คือซ้ายหัน) จะเห็นศาลาอยู่ขวาสุด เรียกชื่อว่าศาลา๔สมเด็จ ถัดมาทางซ้าย(อาคาร๒ชั้นหลังกลาง) คือพระที่นั่งทรงผนวช และอาคารลำดับสุดท้ายอยู่ซ้ายสุด ก็คืออยู่ใกล้ๆกับรั้วเหล็กของวัด ชื่อว่า พระที่นั่งทรงธรรม อาคารทั้งหมดล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับรัชกาลที่๕ทั้งสิ้น)
พระที่นั่งทรงธรรม
อาคารนี้ชื่อว่าพระที่นั่งทรงธรรม This building is named Songtham Hall (หรือ Prathinagsongtham) ในอดีตใช้เป็นที่ทรงธรรม(ฟังธรรมหรือปฏิบัติธรรม) สำหรับรัชกาลที่๕เมื่อเสด็จมาทรงธรรมที่วัดนี้ In the past , it was used as a place for King Rama V to observe religious affairs (to listen to a sermon or to do meditation) when he came to do such the deeds in this temple. ปัจจุบันใช้เป็นอาคารบำเพ็ญกุศลในงานศพสำหรับบุคคลสำคัญ เช่นอดีตนายกรัฐมนตรี และเจ้านายบางพระองค์ Nowadays it is used as a lying-in-state hall (หรือ funeral hall) for very important persons such as the former prime ministers and some royal family members. การก่อสร้างรับเป็นเจ้าภาพโดย พระนางเจ้าสว่างวัฒนา หรือสมเด็จย่าในรัชกาลปัจจุบัน The construction was subsidized by Queen Sawang Wattana or the current king's grandmother.
พระที่นั่งทรงผนวช
อาคารนี้เรียกว่าพระที่นั่งทรงผนวช This building is called Songphanuad Hall (หรือ Phrathinanagsongphanuad) เคยอยู่ในวัดในส่วนในของพระบรมมหาราชวังที่เรียกว่าพุทธรัตนสถาน It used to be in the inner court of the royal grand palace that is called Phuttarattanasathan. เคยเป็นที่ประทับของรัชกาลที่๕ขณะที่พระองค์ผนวชเป็นพระภิกษุ It used to be a residence of King Rama V while he was still a monk(หรือ while he was still in priesthood) ต่อมาย้ายมา(ถูกย้ายมา)เพื่อเป็นกุฎิเจ้าอาวาสที่ีวัดนี้ Later, it was moved to be a residence of the temple abbot. ปัจจุบันไม่ได้ใช้เป็นกุฏิเจ้าอาวาสอีกแล้ว Nowadays, it is not used as the residence of the temple abbot any more.(หรือ it is no longer used as the residence of the temple abbot.) ใช้เป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับเก็บของใช้ต่างๆในรัชกาลที่๕ It is used as a museum for keeping King Rama V's amenities (หรือ personal effects).
พระที่นั่งทรงผนวช
พระที่นั่งทรงผนวช(ซ้าย) และศาลา๔สมเด็จ(ขวา)
ศาลาสี่สมเด็จ
ศาลานี้ชื่อว่าศาลา๔สมเด็จ This pavilion is named Sisomdet Pavilion. หมายถึงศาลาที่เกี่ยวข้องกับสมเด็จ(พระบรมวงศนุวงศ์ชั้นสูง)๔องค์ It means the pavilion that is related to 4 high rank royal family members. การสร้างรับเป็นเจ้าภาพในนามบุคคล๔ท่าน(สมเด็จ๔องค์)ที่เป็นพีน้องร่วมพระชนกชนนีเดียวกัน ได้แก่ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ (รัชกาลที่๕) เจ้าฟ้าจัทรมณฑล เจ้าฟ้าจักรพรรดิพงศ์ และเจ้าฟ้าภานุรังษีสว่างวงศ์ Its construction was subsidized on behalf of the 4 persons who were full brothers and sister namely Chulalongkorn the king, Chathadaramonthon the Princess, Chakkphatdiphong the Prince and Phanurangsisawangwong the Prince.
ศาลา๔สมเด็จ
กลองยาวภายในศาลาสี่สมเด็จ
หน้าบันศาลา๔สมเด็จ(ด้านที่เป็นตราพระราชลัญจกรในเจ้าฟ้าหญิงจันทรมณฑล)
ตราเป็นรูปดวงจันทร์
หน้าบันศาลา๔สมเด็จ (ด้านที่เป็นตราพระราชลัญจกรในเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ หรือรัชกาลที่๕)
ตราเป็นรูปพระเกี้ยว หรือจุลจอมเกล้า คือมงกุฎขนาดเล็ก
หน้าบันศาลา๔สมเด็จ(ด้านที่เป็นตราพระราชลัญจกรในเจ้าฟ้าจักรพรรดิพงศ์)
ตราเป็นรูปจักร
หน้าบันศาลา๔สมเด็จ(ด้านที่เป็นตราพระราชลัญจกรในเจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์)
ตราเป็นรูปดวงอาทิตย์
กลองยาวในศาลา๔สมเด็จ
กลองนี้เป็นกลองโบราณ ยาว๕.๓๒เมตร ทำด้วยไม้ประดู่ The drum is an ancient one ,5.32 meters long ,made of Burmese ebony wood. เคยเป็นกลองสงครามของกองทัพกบฎ คือ เงี้ยว ในปีค.ศ.๑๙๐๓ It used to be a war drum of the rebellious troops--Ngiew in 1903. กลองถูกยึดมาได้หลังจากพวกกบฎถูกรัฐบาลปราบในตอนนั้น และก็รัชกาลที่๕ให้นำมาไว้ที่วัด The drum was occupied after they were defeated by the government then and King Rama V had it brought to keep(หรือ to be kept) in this temple.
สะพานพระรูป สะพานถ้วย สะพานงา
สะพานพระรูป
สะพานชื่อสะพานพระรูป เงินสนับสนุนการก่อสร้างมาจากรายได้มในการขายเหรียญในงานวัด The bridge is named the Monarch Figure Bridge. The subsidy for the construction was from sale of coins in the design of the king's figure in a temple fair.
สะพานพระรูป
สะพานถ้วย
สะพานนี้ชื่อว่าสะพานถ้วย เงินสนับสนุนการก่อสร้างมาจากการขายถ้วยที่รัชกาลที่๕บริจาคให้ในงานวัด
The bridge is named The Cup Bridge. The subsidy for the construction was from the sale of cups that the king gave away for the temple fair.
สะพานงา
สะพานนี้ชื่อว่าสะพานงา เงินสนับสนุนการก่อสร้างมาจากการขายงาช้างในงานวัด
The bridge is named Ivory Bridge. The subsidy for the construction is from the sale of ivories in a temple fair.
ตัวอย่างประโยคที่น่าสนใจ
๑. วัดนี้สร้างในสมัยรัชกาลที่๕ พระอัยกา(เสด็จปู่)ในรัชกาลปัจจุบัน ในปี ค.ศ.๑๙๐๐ หรือประมาณ๑๑๔ปีมาแล้ว โดยการใช้หินอ่อนที่ดีที่สุดจากเมืองคาราร่า ประเทศอิตาลี This temple was built in the reign of King Rama V,the grandfather of the current king in 1900 or 114 years ago by using the the best marble from Carrara ,Italy. ดังนั้นวัดนี้จึงเป็นที่รู้จักกันดีว่าวัดหินอ่อน So the temple is well-known as The Temple of Marble.
๒. การก่อสร้างกินเวลากว่า๑๐ปี รัชกาลที่๕สรรคตก่อนการก่อสร้างจะเสร็จสมบูรณ์ พระราชโอรสของพระองค์คือรัชกาลที่๖ พระปิตุลา(ลุง)ในรัชกาลปัจจุบันดำเนินการก่อสร้างต่อจึงเสร็จสมบูรณ์ The construction lasted longer than 10 years. King Rama V passed away before the construction was complete. His son,King Rama VI-- the uncle of the current king ,continued the construction to complete.
๓. พระอุโบสถทำด้วยอิฐ(ซึ่ง)ประดับด้วยหินอ่อนที่ดีที่สุดจากประเทศอิตาลี The main chapel is made of bricks decorated with the best marble from Italy. ออกแบบโดยกรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ พระอนุชาในรัชกาลที่๕ พร้อมด้วยชาวอิตาลีอื่นๆ เช่น มิสเตอร์ มาริโอตามาโย โดยการจ้างแรงงานชาวจีนมาร่วม
It is designed (หรือ It was designed) by Prince Narit ,a brother of King Rama V together with other Italian such as Mr.Mario Tamago by employing the Chinese laborers to take part.( หรือ to join with)
๔. พระระเบียงของอุโบสถสร้างเพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์พระพุทธรูป The gallery of the main chapel is built to be a museum of Buddha image ดังนั้นเราไม่ต้องถอดรองเท้าเดินชม So we need not (don't have to)take shoes off to walk to see. รัชกาลที่๕ให้สร้างเพื่อให้ประชาชนได้ศึกษาพระพุทธรูปแบบต่างๆ ทั้งแบบไทยและต่างประเทศ เช่นแบบอินเดีย พม่า กรีก และญี่ปุ่น King Rama V had it built to have the public learn different styles of Buddha image both Thai and foreign ones such as the Indian ,Burmese , Greek and Japanese. บางองค์เป็นของจริงมาจากที่ต่างๆ Some of them are the real (original) ones from places. บางองค์เป็นของเลียนแบบหรือถ่ายแบบมา Some of them are imitation or duplicated ones.
คำถามท้ายเรื่อง
๑. เป็นที่ถกเถียงกันหลายฝ่ายว่า วัดเบญจฯเป็นวัดประจำรัชกาลที่๕หรือไม่กันแน่ เรื่องนี้จะอธิบายอย่างไร?
แนวการตอบ
ตามรับสั่งในรัชกาลที่๕มีพระราชประสงค์ให้นำพระสรีรางคาร(เถ้ากระดูก)ของพระองค์แบ่งไปประดิษฐานไว้ในวัด๒แห่งคือวัดราชบพิธ และวัดเบญจมบพิตร โดยวัดราชบพิธเป็นวัดประจำรัชกาล ในขณะที่วัดเบญจมบพิตรเป็นวัดแห่งรัชกาลที่๕ หมายถึงวัดที่รัชกาลที่๕ทรงออกทุนทรัพย์สร้างด้วยพระองค์เอง ทั้งนี้ชื่อเต็มของวัดคือ วัดเบญจมพบิตรดุสิตวนาราม ระบุความหมายอยู่ในตัวแล้วว่า เป็นวัดแห่งรัชกาลที่๕ซึ่งสร้างให้เป็นวัดประจำพระราชวังดุสิตและยังเป็นวัดที่ตั้งอยู่ในเขตป่า(สมัยนั้นยังเป็นป่า) เราจะเห็นความคิดการสร้างวัดให้คู่กับวังอยู่หรือวัดประจำวังหลายแห่ง เช่น วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นวัดประจำพระบรมมหาราชวัง วัดพระศรีสรรเพชญ์เป็นวัดประจำพระราชวังแห่งกรุงศรีอยุธยา
ตัวอย่างการบรรยาย
บรรยายประวัติย่อๆ
"........Ladies and gentlemen , welcome to one of the most famous temples in Bangkok.
ขอต้อนรับท่านสุภาพสตรีและบุรุษทั้งหลายสู่วัดที่มีชื่อเสียงที่สุดวัดหนึ่งในกรุงเทพฯค่ะ/ครับ
It is the Temple of Marble or the Marble Temple. วัดแห่งหินอ่อนหรือวัดหินอ่อนนั่นเอง
It is officially named Wat Benchamabophit Dusitwanaram.
เรียกชื่อเป็นทางการว่าวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
This means the temple,located in a forestry area in Dusit Palace precinct, is in honour of King Ram V or King Chulalongkorn.
อันหมายถึงว่าวัดนี้ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าที่อยู่ในขอบเขตแห่งพระราชวังดุสิต เป็นเกียรติแก่รัชกาลที่๕หรือพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
(precinct ขอบเขต , in honour of/ in honor of เป็นเกียรติแก่..................... )
During that time ,in 1900s, the surroundings were forestry. ในช่วงเวลานั้นคือช่วงทศวรรษแห่ง ค.ศ.1900 บริเวณรอบๆยังเป็นป่าอยู่
This temple is regarded as the temple of Dusit Palace. วัดนี้ถือเป็นวัดประจำพระราชวังดุสิต.........."
"......This temple is called in tourism as the Marble Temple because it is beautifully decorated with the best marble in the world from Carrara, Italy.
วัดนี้เรียกกันในเชิงการท่องเที่ยวว่าวัดหินอ่อน เพราะว่าประดับประดาอย่างงดงามด้วยหินอ่อนที่ดีที่สุดในโลกจากเมืองคาราร่า ประเทศอิตาลี
It is probably misunderstood as the marble temple that is totally(หรือ entirely) made of marble.
บางทีอาจเป็นที่เข้าใจผิดกันว่าเป็นวัดที่ทำด้วยหินอ่อนทั้งหลัง
Actually,it is made of bricks and covered with marble that is about 3 centimetres thick.
ที่จริงแล้วทำด้วยอิฐปิดด้วยหินอ่อนหนาประมาณ๓เซนติเมตร
The temple is about 110 years old but still looks new because of the continual restoration and renovation.
วัดนี้อายุประมาณ๑๑๐ปีแล้ว แต่ยังดูใหม่ เพราะการบูรณะและปฎิสังขรณ์กันอย่างต่อเนื่อง........."
(continual หมายถึง ต่อเนื่องโดยมีการเว้นระยะ ส่วน continuousหมายถึงต่อเนื่องอย่างไม่หยุดหรือเว้นระยะ)
"...........The temple was established in the reign of King Ram V or King Chulalongkorn in 1899 or 112 years ago, on the site of an old temple available before his reign.
วัดนี้สถาปนาขึ้นในรัชกาลที่๕ หรือพระจุลจอมเกล้าฯ ในปีค.ศ.๑๘๙๙ หรือ ๑๑๒ปีมาแล้ว บนที่ตั้งของวัดเก่าที่มีมาอยู่ก่อนรัชสมัยพระองค์................."
หมายเหตุ : ก่อนหน้านั้นมีวัดอยู่ก่อนชื่อว่าวัดเบญจบพิตร แปลว่าวัดแห่งเจ้านาย๕พระองค์ แล้วรัชกาลที่๕ได้สถาปนาวัดขึ้นมาใหม่เป็นวัดเบญจมบพิตร ทั้งนี้เพื่อเป็นการผาติกรรม(กระทำการชดเชย)ให้แก่วัดร้างที่ถูกรื้อทิ้งเนื่องจากต้องใช้เป็นส่วนหนึ่งในอาณาบริเวณของพระราชวังดุสิต ตามหลักฐานที่พอจะมี ระบุว่า ต้องรื้อวัดร้างอย่างน้อย๒แห่ง คือวัดดุสิตและวัดไม่ทราบชื่ออีกหนึ่งแห่ง
บรรยายเกี่ยวกับอุโบสถ
".......The principal chapel or ubosoth was firstly built in a temporary style that was made of golden teak wood with thatched roof.
อาคารหลักหรืออุโบสถสร้างครั้งแรกแบบชั่วคราวด้วยไม้สักทองหลังคามุงจาก.
(thatched roof หลังคามุงจาก)
The permanent one as seen nowadays was built in 1901 but it took slightly longer than 10 years to complete.
อาคารถาวรอย่างที่เห็นในทุกวันนี้ สร้างในปีค.ศ.๑๙๐๑ แต่ใช้เวลา๑๐กว่าปีถึงเสร็จสมบูรณ์
That means it was completed after the demise of King Rama V.
นั่นหมายถึงสร้างเสร็จหลังการสวรรคตของรัชกาลที่๕..........."
The front gable-end of the main chapel หน้าบันด้านหน้าของอุโบสถ
".............The front gable-end of the main chapel is like that of other royal temples in that it shows the figure of Vishnu,the Hindu god mounted on Garuda,the mythical bird หน้าบันด้านหน้าของอุโบสถก็เหมือนกับวัดหลวงอื่นๆตรงที่เป็นรูปพระนารายณ์ทรงครุฑยุดนาค................"
Who designed it ?ใครออกแบบวัดเบญจ?
".........This temple is mainly designed by the two persons--Prince Narit, the king's half-brother and Mario Tamagno, an Italian architect วัดนี้โดยหลักๆแล้วออกแบบโดยบุคคล๒ท่านคือ กรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ พระอนุชาต่างพระมารดา และสถาปนิกชาวอิตาลี ชื่อมาริโอ ตามาโย............."
หน้าต่างพระอุโบสถ The window of the main chapel
"............The upper part of the ubosoth windows is also beautifully decorated with the stained-glass made in Florence , Italy but designed by Thai ด้านบนของหน้าต่างก็ประดับอย่างสวยงามด้วยกระจกสีทำที่เมืองฟลอเรซ์ ประเทศอิตาลี แต่ว่าลวดลายออกแบบโดยคนไทย............"
"..........Inside the ubosoth, there is the presiding Buddha image. ภายในอุโบสถมีพระประธานอยู่ It is a gilt alloy of brass , bronze and silver image.ทำด้วยโลหะผสมจาก ทองเหลือง สัมริด และเงิน ปิดทอง
This Buddha image is important in that (1) Its base contains the crematory ashes of King Rama V (2) It is an imitative one of Phra Phutthachinnarat--the Buddha image in Phitsanulok that is one of the most beautiful Buddha images in Thai history.
พระพุทธรูปองค์นี้สำคัญตรงที่ว่า (๑) ฐานของพระเป็นที่เก็บพระสรีรางคารของรัชกาลที่๕ (๒) เป็นพระพุทธรูปเลียนแบบคล้ายกับพระพุทธชินราชที่พิษณุโลก ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่สวยงามที่สุดองค์หนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย
The gilding work of the presiding Buddha image was originally done in 1909 by the Japanese goldsmith master from Tokyo named Tsura Hara or Sensei Tsuru Hara
งานปิดทองพระพุทธรูปประธานนั้นแต่เดิมทำโดยครูช่างทองชาวญี่ปุ่นจากโตเกียว ชื่อ ทซุรุ ฮารา หรือครูทซุรุ ฮารา.
Then it was regilt in the current king's reign in 1982 by the Department of Fine Arts. แล้วต่อมาก็ปิดทองเสียใหม่ในรัชกาลปัจจุบัน ในปี ค.ศ.๑๙๘๒ โดยกรมศิลปากร.................."
When and where was the presiding Buddha image made? พระประธานทำที่ไหน ทำเมื่อไร?
"...............This presiding Buddha image was cast in Phitsanulok in October 1901 by 240 workers and it was transferred to Bangkok by raft along the Chaaophraya River for 4 days and it was kept in the foundry of Bangkok first. พระประธานองค์นี้หล่อที่พิษณุโลก ในเดือนตุลาคม ค.ศ.๑๙๐๑ ด้วยแรงงาน๒๔๐คน แล้วก็อัญเชิญมากรุงเทพฯ ด้วยแพมาทางแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นเวลา๔วัน แล้วก็มาเก็บไว้ที่โรงหล่อกรุงเทพฯก่อน
On December 13th 1901 ,it was transferred to this temple along the canals--Samsen and Premprachakorn.วันที่ 13 ตุลาคม ค.ศ. ๑๙๐๑ ก็อัญเชิญมาไว้ที่วัดนี้ โดยมาทางคลองสามเสนและคลองเปรมประชากร
From the canal over there (Khlong Premprachakorn), it took 5 and a half hours by using sledge to transfer it into the inner side of the ubosoth.
จากคลองทางโน้น(คลองเปรมประชากร) ใช้เวลา๕ชั่วโมงครึ่งในการอัญเชิญพระพุทธรูปมาสู่ส่วนในของโบสถ์โดยอาศัยตะเฆ่(ล้อเลื่อน)
บรรยายเรื่องศาลา๒หลังที่อยู่หน้าพระอุโบสถ
(ด้านหน้าพระอุโบสถ มีศาลา๒หลัง ซึ่งรูปทรงและขนาดเท่ากัน เมื่อยืนหันหน้าเข้าหาอุโบสถ จะพบศาลาที่ใช้เป็นที่จำหน่ายค่าเข้าชมแก่นักท่องเที่ยวอยู่ทางด้านขวามือของเรา ศาลานี้ชื่อ ศาลาใย-ระเบียบ ส่วนศาลาที่อยู่ทางด้านซ้ายของเรา ใช้เป็นที่จำหน่ายเครื่องดื่มและของกินอื่นๆ ศาลานี้ชื่อ ศาลาหม่อมเฉื่อย)
ศาลาหม่อมเฉื่อย(หน้าบันด้านที่มีรูปพระพายทรงม้า)
หน้าบันศาลาใยระเบียบ(ด้านที่มีรูปคนทอผ้าเป็นใยๆ)
หน้าบันศาลาใยระเบียบ(ด้านที่มีรูปพวงมาลัยที่ร้อยเป็นระเบียบ)
การอธิบายเกี่ยวกับศาลาหม่อมเฉื่อย
"ศาลานี้ชื่อว่าศาลาหม่อมเฉื่อย สร้างในปีพ.ศ.๒๔๔๗(ค.ศ.1904) การก่อสร้าง รับเป็นเจ้าภาพ(สนับสนุนทางการเงิน)โดยกรมพระยาดำรงราชนุภาพ เพื่ออุทิศให้หม่อมเฉื่อย หม่อมในพระองค์(กรมพระยาดำรงฯ) This pavilion is named Momchuei Pavilion.It was built in 1904. Its construction was subsidized by Prince Damrong to dedicate to Momchuei ,his own wife. ปัจจุบันใช้เป็นร้านจำหน่ายเครื่องดื่มและของกินอื่นๆ Nowadays it is used as a refreshment shop." A gable shows the figure of Vayu ,the god of wind mounted on a horse. หน้าบันด้านหนึ่งแสดงรูปพระพายทรงม้า"
หมายเหตุ ที่หน้าบันเป็นรูปพระพายทรงม้าก็เพื่อให้สอดคล้องกับความหมายว่า"เฉื่อย" เพราะ "เฉื่อย" มีความหมายถึงพระพาย ดังคำพูดว่า "ลมพัดเฉื่อยๆ"
การอธิบายเกี่ยวกับศาลาใยระเบียบ
"ศาลานี้เรียกว่า ศาลาใย-ระเบียบ สร้างในปีเดียวกับศาลาหม่อมเฉื่อย การก่อสร้างใช้เวลา๑ปี This pavilion is called Yai-Rabieb Pavilion . It was built in the same year of Momchoei pavilion .The construction lasted 1 year. การก่อสร้างรับเป็นเจ้าภาพโดยฆราวาสผู้หญิง(อุบาสิกา)ชื่อระเบียบ เพื่ออุทิศให้ นางใยผู้เป็นแม่ และนางระเบียบคือตนเอง The construction was subsidized by a laywoman named Rabieb to dedicate to Yai her monther and Rabieb hereself ปัจจุบันใช้เป็นที่จำหน่ายตั๋วค่าเข้าชม สำหรับชาวต่างชาติ Nowadays , it is used as an admission ticket office for foreigners."
พระที่นั่งทรงธรรม พระที่นั่งทรงผนวช และศาลาสี่สมเด็จ
(เมื่อยืนหันหน้าเข้าหาพระอุโบสถ จะสังเกตุเห็นว่าทางด้านซ้ายมีคลองกั้นวัดเป็น๒ส่วนคือพุทธาวาส คือบริเวณที่เราเข้ามายืน และสังฆาวาส คือบริเวณอีกฝั่งหนึ่งของคลอง และในบริเวณสังฆาวาสจะมีอาคารที่เห็นเด่นอยู่ ๓ หลัง หลังหนึ่งเป็นศาลา อีก๒หลังรูปทรงคล้ายกันคือ เป็นอาคาร๒ชั้น เมื่อเราลองหันหน้าเข้าหาคลองแทน(ก็คือซ้ายหัน) จะเห็นศาลาอยู่ขวาสุด เรียกชื่อว่าศาลา๔สมเด็จ ถัดมาทางซ้าย(อาคาร๒ชั้นหลังกลาง) คือพระที่นั่งทรงผนวช และอาคารลำดับสุดท้ายอยู่ซ้ายสุด ก็คืออยู่ใกล้ๆกับรั้วเหล็กของวัด ชื่อว่า พระที่นั่งทรงธรรม อาคารทั้งหมดล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับรัชกาลที่๕ทั้งสิ้น)
พระที่นั่งทรงธรรม
อาคารนี้ชื่อว่าพระที่นั่งทรงธรรม This building is named Songtham Hall (หรือ Prathinagsongtham) ในอดีตใช้เป็นที่ทรงธรรม(ฟังธรรมหรือปฏิบัติธรรม) สำหรับรัชกาลที่๕เมื่อเสด็จมาทรงธรรมที่วัดนี้ In the past , it was used as a place for King Rama V to observe religious affairs (to listen to a sermon or to do meditation) when he came to do such the deeds in this temple. ปัจจุบันใช้เป็นอาคารบำเพ็ญกุศลในงานศพสำหรับบุคคลสำคัญ เช่นอดีตนายกรัฐมนตรี และเจ้านายบางพระองค์ Nowadays it is used as a lying-in-state hall (หรือ funeral hall) for very important persons such as the former prime ministers and some royal family members. การก่อสร้างรับเป็นเจ้าภาพโดย พระนางเจ้าสว่างวัฒนา หรือสมเด็จย่าในรัชกาลปัจจุบัน The construction was subsidized by Queen Sawang Wattana or the current king's grandmother.
พระที่นั่งทรงผนวช
อาคารนี้เรียกว่าพระที่นั่งทรงผนวช This building is called Songphanuad Hall (หรือ Phrathinanagsongphanuad) เคยอยู่ในวัดในส่วนในของพระบรมมหาราชวังที่เรียกว่าพุทธรัตนสถาน It used to be in the inner court of the royal grand palace that is called Phuttarattanasathan. เคยเป็นที่ประทับของรัชกาลที่๕ขณะที่พระองค์ผนวชเป็นพระภิกษุ It used to be a residence of King Rama V while he was still a monk(หรือ while he was still in priesthood) ต่อมาย้ายมา(ถูกย้ายมา)เพื่อเป็นกุฎิเจ้าอาวาสที่ีวัดนี้ Later, it was moved to be a residence of the temple abbot. ปัจจุบันไม่ได้ใช้เป็นกุฏิเจ้าอาวาสอีกแล้ว Nowadays, it is not used as the residence of the temple abbot any more.(หรือ it is no longer used as the residence of the temple abbot.) ใช้เป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับเก็บของใช้ต่างๆในรัชกาลที่๕ It is used as a museum for keeping King Rama V's amenities (หรือ personal effects).
พระที่นั่งทรงผนวช
พระที่นั่งทรงผนวช(ซ้าย) และศาลา๔สมเด็จ(ขวา)
ศาลาสี่สมเด็จ
ศาลานี้ชื่อว่าศาลา๔สมเด็จ This pavilion is named Sisomdet Pavilion. หมายถึงศาลาที่เกี่ยวข้องกับสมเด็จ(พระบรมวงศนุวงศ์ชั้นสูง)๔องค์ It means the pavilion that is related to 4 high rank royal family members. การสร้างรับเป็นเจ้าภาพในนามบุคคล๔ท่าน(สมเด็จ๔องค์)ที่เป็นพีน้องร่วมพระชนกชนนีเดียวกัน ได้แก่ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ (รัชกาลที่๕) เจ้าฟ้าจัทรมณฑล เจ้าฟ้าจักรพรรดิพงศ์ และเจ้าฟ้าภานุรังษีสว่างวงศ์ Its construction was subsidized on behalf of the 4 persons who were full brothers and sister namely Chulalongkorn the king, Chathadaramonthon the Princess, Chakkphatdiphong the Prince and Phanurangsisawangwong the Prince.
ศาลา๔สมเด็จ
กลองยาวภายในศาลาสี่สมเด็จ
หน้าบันศาลา๔สมเด็จ(ด้านที่เป็นตราพระราชลัญจกรในเจ้าฟ้าหญิงจันทรมณฑล)
ตราเป็นรูปดวงจันทร์
หน้าบันศาลา๔สมเด็จ (ด้านที่เป็นตราพระราชลัญจกรในเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ หรือรัชกาลที่๕)
ตราเป็นรูปพระเกี้ยว หรือจุลจอมเกล้า คือมงกุฎขนาดเล็ก
หน้าบันศาลา๔สมเด็จ(ด้านที่เป็นตราพระราชลัญจกรในเจ้าฟ้าจักรพรรดิพงศ์)
ตราเป็นรูปจักร
หน้าบันศาลา๔สมเด็จ(ด้านที่เป็นตราพระราชลัญจกรในเจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์)
ตราเป็นรูปดวงอาทิตย์
กลองยาวในศาลา๔สมเด็จ
กลองนี้เป็นกลองโบราณ ยาว๕.๓๒เมตร ทำด้วยไม้ประดู่ The drum is an ancient one ,5.32 meters long ,made of Burmese ebony wood. เคยเป็นกลองสงครามของกองทัพกบฎ คือ เงี้ยว ในปีค.ศ.๑๙๐๓ It used to be a war drum of the rebellious troops--Ngiew in 1903. กลองถูกยึดมาได้หลังจากพวกกบฎถูกรัฐบาลปราบในตอนนั้น และก็รัชกาลที่๕ให้นำมาไว้ที่วัด The drum was occupied after they were defeated by the government then and King Rama V had it brought to keep(หรือ to be kept) in this temple.
สะพานพระรูป สะพานถ้วย สะพานงา
สะพานพระรูป
สะพานชื่อสะพานพระรูป เงินสนับสนุนการก่อสร้างมาจากรายได้มในการขายเหรียญในงานวัด The bridge is named the Monarch Figure Bridge. The subsidy for the construction was from sale of coins in the design of the king's figure in a temple fair.
สะพานพระรูป
สะพานถ้วย
สะพานนี้ชื่อว่าสะพานถ้วย เงินสนับสนุนการก่อสร้างมาจากการขายถ้วยที่รัชกาลที่๕บริจาคให้ในงานวัด
The bridge is named The Cup Bridge. The subsidy for the construction was from the sale of cups that the king gave away for the temple fair.
สะพานงา
สะพานนี้ชื่อว่าสะพานงา เงินสนับสนุนการก่อสร้างมาจากการขายงาช้างในงานวัด
The bridge is named Ivory Bridge. The subsidy for the construction is from the sale of ivories in a temple fair.
ตัวอย่างประโยคที่น่าสนใจ
๑. วัดนี้สร้างในสมัยรัชกาลที่๕ พระอัยกา(เสด็จปู่)ในรัชกาลปัจจุบัน ในปี ค.ศ.๑๙๐๐ หรือประมาณ๑๑๔ปีมาแล้ว โดยการใช้หินอ่อนที่ดีที่สุดจากเมืองคาราร่า ประเทศอิตาลี This temple was built in the reign of King Rama V,the grandfather of the current king in 1900 or 114 years ago by using the the best marble from Carrara ,Italy. ดังนั้นวัดนี้จึงเป็นที่รู้จักกันดีว่าวัดหินอ่อน So the temple is well-known as The Temple of Marble.
๒. การก่อสร้างกินเวลากว่า๑๐ปี รัชกาลที่๕สรรคตก่อนการก่อสร้างจะเสร็จสมบูรณ์ พระราชโอรสของพระองค์คือรัชกาลที่๖ พระปิตุลา(ลุง)ในรัชกาลปัจจุบันดำเนินการก่อสร้างต่อจึงเสร็จสมบูรณ์ The construction lasted longer than 10 years. King Rama V passed away before the construction was complete. His son,King Rama VI-- the uncle of the current king ,continued the construction to complete.
๓. พระอุโบสถทำด้วยอิฐ(ซึ่ง)ประดับด้วยหินอ่อนที่ดีที่สุดจากประเทศอิตาลี The main chapel is made of bricks decorated with the best marble from Italy. ออกแบบโดยกรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ พระอนุชาในรัชกาลที่๕ พร้อมด้วยชาวอิตาลีอื่นๆ เช่น มิสเตอร์ มาริโอตามาโย โดยการจ้างแรงงานชาวจีนมาร่วม
It is designed (หรือ It was designed) by Prince Narit ,a brother of King Rama V together with other Italian such as Mr.Mario Tamago by employing the Chinese laborers to take part.( หรือ to join with)
๔. พระระเบียงของอุโบสถสร้างเพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์พระพุทธรูป The gallery of the main chapel is built to be a museum of Buddha image ดังนั้นเราไม่ต้องถอดรองเท้าเดินชม So we need not (don't have to)take shoes off to walk to see. รัชกาลที่๕ให้สร้างเพื่อให้ประชาชนได้ศึกษาพระพุทธรูปแบบต่างๆ ทั้งแบบไทยและต่างประเทศ เช่นแบบอินเดีย พม่า กรีก และญี่ปุ่น King Rama V had it built to have the public learn different styles of Buddha image both Thai and foreign ones such as the Indian ,Burmese , Greek and Japanese. บางองค์เป็นของจริงมาจากที่ต่างๆ Some of them are the real (original) ones from places. บางองค์เป็นของเลียนแบบหรือถ่ายแบบมา Some of them are imitation or duplicated ones.
คำถามท้ายเรื่อง
๑. เป็นที่ถกเถียงกันหลายฝ่ายว่า วัดเบญจฯเป็นวัดประจำรัชกาลที่๕หรือไม่กันแน่ เรื่องนี้จะอธิบายอย่างไร?
แนวการตอบ
ตามรับสั่งในรัชกาลที่๕มีพระราชประสงค์ให้นำพระสรีรางคาร(เถ้ากระดูก)ของพระองค์แบ่งไปประดิษฐานไว้ในวัด๒แห่งคือวัดราชบพิธ และวัดเบญจมบพิตร โดยวัดราชบพิธเป็นวัดประจำรัชกาล ในขณะที่วัดเบญจมบพิตรเป็นวัดแห่งรัชกาลที่๕ หมายถึงวัดที่รัชกาลที่๕ทรงออกทุนทรัพย์สร้างด้วยพระองค์เอง ทั้งนี้ชื่อเต็มของวัดคือ วัดเบญจมพบิตรดุสิตวนาราม ระบุความหมายอยู่ในตัวแล้วว่า เป็นวัดแห่งรัชกาลที่๕ซึ่งสร้างให้เป็นวัดประจำพระราชวังดุสิตและยังเป็นวัดที่ตั้งอยู่ในเขตป่า(สมัยนั้นยังเป็นป่า) เราจะเห็นความคิดการสร้างวัดให้คู่กับวังอยู่หรือวัดประจำวังหลายแห่ง เช่น วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นวัดประจำพระบรมมหาราชวัง วัดพระศรีสรรเพชญ์เป็นวัดประจำพระราชวังแห่งกรุงศรีอยุธยา
Subscribe to:
Posts (Atom)